50+ ก็เริ่มใหม่ได้! ถ้ามายด์เซตดี 

“อายุไม่ใช่ข้อจำกัดในการเรียนรู้ ยิ่งอายุมากขึ้น ยิ่งต้องเรียนรู้เรื่องราวใหม่ ๆ เพราะโลกมันเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด สิ่งสำคัญคือมายด์เซ็ตของเราว่าพร้อมจะเรียนรู้ ตั้งใจ และเต็มที่กับมันมากขนาดไหน ถึงแม้ว่าผลที่ออกมา อาจจะไม่ได้เป็นไปอย่างที่เราหวัง อย่างน้อยเราก็สามารถนำสิ่งที่เราได้เรียนรู้ มาใช้เพื่อปรับปรุงจุดบกพร่อง และพัฒนาตัวเองต่อไปได้”

มนุษย์ต่างวัยคุยกับ “เล็ก” ชัชนันท์ มั่นเขตรวิทย์ วัย 56 ปี ผู้เข้าร่วมโครงการ 𝗝𝘂𝗻𝗶𝗼𝗿 𝗦𝗼𝗳𝘁𝘄𝗮𝗿𝗲 𝗗𝗲𝘃𝗲𝗹𝗼𝗽𝗲𝗿 รุ่นที่ 7 ผู้เข้าอบรมที่อายุมากที่สุดในรุ่น คุณเล็กเป็นอดีตผู้จัดการแผนกไอทีที่ว่างเว้นจากการทำงานประจำไปนานกว่า 7 ปี และต้องการกลับมาเริ่มต้นเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อีกครั้งในวัยใกล้เกษียณ เพราะเชื่อว่าไม่ว่าวัยไหนก็สามารถเรียนรู้สิ่งใหม่ได้ 

“พี่เรียนจบทางด้านวิทยาศาสตร์ สาขาสถิติ ช่วงนั้นเป็นช่วงที่คอมพิวเตอร์เพิ่งเข้ามาในประเทศ และมีการเปิดวิชาเกี่ยวกับ การเขียนภาษาคอมพิวเตอร์ให้ลงเรียน ซึ่งตอนนั้นยังเป็นเรื่องใหม่มาก ๆ ทำให้เรารู้สึกตื่นตาตื่นใจ และคิดว่าอยากทำงานในด้านนี้

“พอเรียนจบพี่ก็ทำงานในตำแหน่งโปรแกรมเมอร์ หลังจากนั้นก็ต่อยอดและเติบโตในสายงานมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งตำแหน่งสุดท้ายในการทำงานคือผู้จัดการแผนกไอทีในบริษัทธุรกิจผลิตภัณฑ์ด้านอาหารและเครื่องดื่ม

“พี่ทำงานต่อเนื่องตั้งแต่เรียนจบมาตลอดเวลาเกือบ 30 ปี ไม่เคยได้พัก บวกกับช่วงนั้นมีการเปลี่ยนแปลงระบบในองค์กรด้วย พอถึงจุดหนึ่งพี่ก็รู้สึกเหมือนมันมีความเครียดสะสม เพราะเวลาทำอะไรพี่ทำเต็มที่ตลอด ตอนนั้นก็เลยรู้สึกว่าอยากพักสักช่วงหนึ่งเพื่อดูแลความรู้สึกตัวเองก่อน แล้วค่อยดูอีกทีว่าเรายังอยากเติบโต ในสายงานนี้ต่อไปหรือเปล่า พอพักได้สักระยะหนึ่งพี่ก็เริ่มสมัครงาน เพื่อที่จะสร้างรายได้และคุณค่าให้กับตัวเองอีกครั้ง

“วันหนึ่งพี่เลื่อนดูโพสต์ไปเรื่อย ๆ จนมาเจอข่าวการรับสมัครโครงการนี้จากเพจมนุษย์ต่างวัย พี่คิดว่าตัวเองก็พอมีพื้นฐานทางด้านนี้อยู่บ้าง คุณสมบัติก็ยังสามารถสมัครได้ อีกอย่างก็เป็นการเรียนรู้ใหม่ตั้งแต่เริ่มต้น สอนเรื่องฮาร์ดสกิล ตั้งแต่พื้นฐาน นอกจากนี้ยังสอนเรื่องซอฟต์สกิล การทำพอร์ตโฟลิโอ และการทำเรซูเมด้วย พี่ก็เลยลองสมัครดู เพราะคิดว่ามันเป็นโอกาสที่ดี

“ถ้าถามว่าประสบการณ์การทำงานด้านไอทีที่มีอยู่เป็นข้อได้เปรียบในการมาเรียนครั้งนี้มากน้อยแค่ไหน พี่มองว่า มันเป็นทั้งข้อดีและข้อเสีย สมมติว่าถ้าเราไม่รู้อะไรเลยมันก็เหมือนกับเราเป็นแก้วเปล่า เราจะเปิดรับเต็มที่ ไม่มีข้อขัดแย้งอะไรอยู่ในหัว ไม่สงสัยว่าสิ่งที่เรามาเรียนมันตรงกับสิ่งที่เราเคยรู้มาหรือเปล่า แล้วเริ่มต้นไปพร้อมกับคนอื่น อย่างพี่ไม่เคยใช้กูเกิลไดร์ฟ พี่ก็ไปหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตมาก่อนว่ามันใช้อย่างไร พี่คิดว่าเด็กรุ่นใหม่ทุกคนคงรู้จัก แต่คนรุ่นพี่ไม่ได้ใช้ ซึ่งพี่ว่าตรงนี้ไม่ยาก ทุกคนเรียนรู้ได้

“พอผ่านการคัดเลือกพี่ก็พบว่า การเรียนรู้ในวัยนี้มีทั้งเรื่องยากและง่าย ความยากคือพี่ไม่เคยเรียนบูทแคมป์แบบนี้มาก่อน เรียนออนไลน์ก็ไม่เคย เคยประชุมออนไลน์แค่ครึ่งวัน ส่วนสิ่งที่ง่ายก็คือใจที่พร้อมเปิดรับสิ่งใหม่ ๆ พี่คิดว่าถ้ามีโอกาส ได้เรียนก็จะได้เจอคนหลากหลายแน่นอน ทั้งหลากหลายวัย หลายอาชีพ เพื่อนร่วมคลาสรุ่นนี้ อายุน้อยที่สุดแค่ 18 ปี ส่วนพี่เป็นคนที่อายุมากที่สุดในคลาส

“ช่วงแรก ๆ ที่เข้าไปเรียน ทำอะไรก็ไม่ทันเด็ก ๆ แต่เวลาติดขัดตรงไหน พี่จะถามน้อง ๆ ในคลาส จะบอกเขาว่าให้ใจเย็น ๆ กับพี่นะ พี่ก็ฝึกไปเรื่อย ๆ เข้าเรียนทุกวัน ไม่เคยขาด พยายามตั้งใจเรียน พยายามตามให้ทันน้อง ๆ ในคลาส มีความรับผิดชอบในการทำแบบฝึกหัดทุกวัน ไม่ผัดวันประกันพรุ่ง ความเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดสำหรับพี่จากการเข้าร่วมโครงการครั้งนี้คือพี่มีวินัยและสามารถทำสิ่งที่ตั้งใจได้อย่างต่อเนื่องมากขึ้น ซึ่งการมีวินัย จะเป็นจุดเริ่มต้นของความสำเร็จหลาย ๆ อย่างที่จะตามมา

“โครงการ 𝗝𝘂𝗻𝗶𝗼𝗿 𝗦𝗼𝗳𝘁𝘄𝗮𝗿𝗲 𝗗𝗲𝘃𝗲𝗹𝗼𝗽𝗲𝗿 ทำให้พี่มองเห็นว่าช่องทางนี้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับชีวิตเรา ทำให้เราได้เรียนรู้การเขียนโปรแกรม การใช้ AI  ChatGPT หลังจากนี้พี่ตั้งใจว่าจะนำพื้นฐานที่เรียนรู้มาไปต่อยอด ในการสมัครงานในตำแหน่งที่เราสนใจ อาจจะไม่ใช่การเป็น 𝗦𝗼𝗳𝘁𝘄𝗮𝗿𝗲 𝗗𝗲𝘃𝗲𝗹𝗼𝗽𝗲𝗿 โดยตรง แต่อาจจะเป็นงานด้านที่ปรึกษา พี่ไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องได้เงินเดือนสูง ๆ แค่ทำแล้วสนุก และได้ใช้ความรู้ ของตัวเองแล้วสร้างรายได้ตอบแทนกลับมาก็เพียงพอแล้ว

“พี่อยากขอบคุณตัวเองที่พยายามและตั้งใจตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ โดยที่ไม่ยอมถอดใจไปก่อน บางครั้งเราอาจจะรู้สึก เหนื่อยบ้าง ท้อบ้าง แต่เราต้องลุกขึ้นมาให้ได้เพราะถ้าเราไม่ช่วยเหลือตัวเอง ก็คงไม่มีใครมาช่วยเราได้

“สิ่งสำคัญของการเข้าร่วมโครงการนี้คือการก้าวข้ามความกลัวที่เกิดขึ้นจากการก้าวออกจากคอมฟอร์ตโซน เราต้องบอกกับตัวเองไว้เสมอว่า แค่เปิดใจ ลงมือทำ แล้วทำให้เต็มที่ ผลเป็นอย่างไรก็ยอมรับ ไม่มีคำว่าช้าเกินไป สำหรับการเรียนรู้ ถ้าคนอื่นทำได้ เราก็ทำได้เหมือนกัน”

𝗝𝘂𝗻𝗶𝗼𝗿 𝗦𝗼𝗳𝘁𝘄𝗮𝗿𝗲 𝗗𝗲𝘃𝗲𝗹𝗼𝗽𝗲𝗿 รุ่น 8 สมัครได้แล้ววันนี้ 

  • รับเพียง 40 ท่านเท่านั้น
  • เปลี่ยนตัวเองเข้าสู่สาย Tech ใน 15 สัปดาห์
  • บูทแคมป์ที่พาคนเข้าทำงานสาย Tech แล้วมากกว่า 138 บริษัท

“อนาคตที่คุณเลือกได้ เพราะบูทแคมป์ของเรา ไม่จำกัดอายุ เพศ วุฒิการศึกษา ไม่มีพื้นฐานก็เรียนได้ เรียนจบพร้อมหางานทันที”

“ผู้เรียนกว่า 7 รุ่น จำนวน 334 คน ที่จบจากโครงการฯ มีรายได้เพิ่มขึ้นกว่า 1.93 เท่า เมื่อเทียบกับอาชีพก่อนเข้าเรียน”

ทำไมต้อง 𝗝𝘂𝗻𝗶𝗼𝗿𝗦𝗼𝗳𝘁𝘄𝗮𝗿𝗲𝗗𝗲𝘃𝗲𝗹𝗼𝗽𝗲𝗿

  • หลักสูตรตอบโจทย์ผู้ว่าจ้างงาน เพราะ โครงการฯ ได้ออกแบบหลักสูตรร่วมกับบริษัทในสาย Tech กว่า 24 แห่ง
  • จัดเต็ม! TECHNICAL SKILLS ที่ใช้ในการทำงานจริง ได้แก่ HTML, CSS, Javascript, React, Node JS, Express, Relational databases, MongoDB และฝึกฝนการทำงานเป็นทีมในรูปแบบโปรเจกต์กลุ่ม
  • เสริมด้วย BEHAVIORAL SKILLS AND MINDSETS (BSM) ที่ให้คุณทำงานแบบมืออาชีพ
  • เรียนสด Online 100% แบบ interactive ผสมผสานกับการเรียนด้วยตัวเองผ่าน Codeacademy
  • มี Career Support ช่วยดูแลในเรื่องของ การสมัครงาน การสัมภาษณ์ การเตรียม CV และมี Community เรียนรู้ต่อจากเพื่อน ๆ ศิษย์เก่า และ mentor ตัวจริงในสายอาชีพนี้
  • เรียนรู้และเติบโตในสายงาน Tech ไปพร้อมกับเพื่อน ๆ ที่มีเป้าหมายเดียวกัน

สมัครได้แล้วที่ : https://thailand.generation.org/programs/jsd/ 

ตั้งแต่วันนี้จนถึง 4 สิงหาคม 2567 เวลา 23.59 น.

.ช่วงเวลาบูทแคมป์ : 9 กันยายน – 20 ธันวาคม 2567

** หากมีการเปลี่ยนแปลงจะแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

ภายใต้ความร่วมมือระหว่างเจเนเรชั่น ประเทศไทย และ สำนักเคเอ็กซ์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี สำหรับผู้สมัครที่มีคุณสมบัติตรงกับเกณฑ์การได้รับทุนการศึกษา สามารถแจ้งขอรับทุนจากองค์กรเพื่อสังคมเจเนเรชั่น ประเทศไทย ผ่านระบบรับสมัคร

ทุนการศึกษาจำนวนจำกัด จากเจเนเรชั่น ประเทศไทย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/GenerationTH?locale=th_TH

Credits

Author

ถึงจะต่างวัยแต่ก็
อยู่ร่วมกันอย่างเข้าใจ