ช่วงเวลาสั้น ๆ แต่สุดประทับใจจากแขกรับเชิญสุดพิเศษ บนเวทีมนุษย์ต่างวัย Talk 2023 “Out of the Box Aging”
นอกจากเหล่า Speakers กว่า 20 คน ที่ทีมงานมนุษย์ต่างวัยตั้งใจคัดสรรมาอย่างดี ครอบคลุมทุกมิติในการมองสังคมสูงวัยแบบนอกกรอบ ยังมีอีกความประทับใจหนึ่งที่ทีมงานตั้งใจจัดทำขึ้น นั่นก็คือ ช่วงแขกรับเชิญคนพิเศษได้ขึ้นเวทีมาเพื่อกล่าวแนะนำ Speakers และ Session ต่าง ๆ เพื่อเปิดพื้นที่ให้คนทุกเจเนอเรชันได้แสดงออกทางความคิดและมุมมองของพวกเขาและเพื่อยืนยันว่า สังคมสูงวัยไม่ใช่แค่เรื่องของคนแก่ แต่เป็นเรื่องของคนทุกเจเนอเรชัน
แม้แต่ละคนจะมีเวลาสั้น ๆ เพียงคนละไม่เกิน 10 นาทีแต่ก็เป็นการเปิดพื้นที่ให้คนทุกเจเนอเรชันได้แสดงออกทางความคิดและมุมมองของพวกเขาและยืนยันว่า สังคมสูงวัยไม่ใช่แค่เรื่องของคนแก่ แต่เป็นเรื่องของคนทุกเจเนอเรชัน ในวันนั้นแขกรับเชิญทุกคนก็ตั้งใจและเตรียมตัวมาอย่างเต็มที่ ทำให้เวทีมนุษย์ต่างวัยทอล์กครั้งนี้เต็มไปด้วยชีวิตชีวาและรอยยิ้ม
วันนี้มีเบื้องหลังสนุก ๆ ของแขกรับเชิญสุดพิเศษแต่ละท่าน มาเล่าให้ฟังกัน !
หากใครได้มีโอกาสได้รับชมงานมนุษย์ต่างวัย Talk ชีวิตนี้บอกให้รู้ว่า ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 17 กันยายน 2565 เราจะได้เห็น Speakers ที่อายุน้อยที่สุดของงาน นั่นก็คือน้องสายลม – วายุ สุวีรานนท์ และน้องก้อนเมฆ – เมฆา สุวีรานนท์ จาก เพจ เรไรรายวัน ที่มนุษย์ต่างวัยเชิญมาพูดบนเวทีเพื่อถ่ายทอดประสบการณ์และบทเรียนชีวิตผ่านมุมมองของเด็ก 8 ขวบ ซึ่งเรื่องราวที่น้องสายลม และน้องก้อนเมฆได้ถ่ายทอดออกมา “โดนใจ” ผู้ฟังจำนวนมาก จนเกิดเป็นปรากฏการณ์แชร์คลิปที่น้องสายลมและน้องก้อนเมฆขึ้นพูดบนเวทีกันอย่างกว้างขวาง
สำหรับงานมนุษย์ต่างวัย Talk 2023 “Out of the Box Aging” ครั้งนี้ มนุษย์ต่างวัยก็มีไอเดียสนุก ๆ ที่อยากชวนน้องทั้ง 3 คนมาขึ้นเวที เพื่อกล่าวเชิญ Session คล้าย ๆ กับงานประกาศรางวัลออสการ์ แต่มากล่าวเชิญอย่างเดียวคงไม่สนุก ต้องให้น้อง ๆ ได้เล่าเรื่องราวที่น้อง ๆ อยากจะเล่าด้วย
มนุษย์ต่างวัยเลยให้โจทย์น้อง ๆ ทั้ง 3 คน พูดถึงสังคมสูงวัยในความคิดของพวกเขา โดยไม่มีกรอบ หรือข้อบังคับใด ๆ สิ่งที่ต้นหลิว-สายลม-ก้อนเมฆ พูดบนเวทีนั้น ล้วนออกมาจากใจของน้อง ๆ และแน่นอนว่าคนฟังก็ไม่ผิดหวัง เพราะเรื่องราวที่น้อง ๆ พูดบนเวทีนั้น น่ารัก และน่าประทับใจมากจริง ๆ
“การที่เราอยู่กับผู้สูงอายุ ทำให้เราต้องมีสติและรอบคอบมากขึ้น เพราะไม่ใช่เเค่ผู้สูงอายุที่ขี้หลงขี้ลืม เราก็ขี้หลงขี้ลืมได้เหมือนกัน”
ต้นหลิว – ด.ญ.เรไร สุวีรานนท์
“ถ้าไม่ให้ยายกับตาทำงานบ้านบ้าง ยายกับตาอาจรู้สึกแก่กว่านี้ก็ได้ สายลมไม่ห้าม ทำได้ เเต่ต้องพักด้วย”
สายลม – ด.ช.วายุ สุวีรานนท์
“ก้อนเมฆคิดว่า สำหรับยาย ความสุขคือ การได้ดูคนอื่นกินข้าว ถ้าเราอยากให้ยายมีความสุข พวกเราต้องกินข้าวให้อร่อย”
ก้อนเมฆ – ด.ช.เมฆา สุวีรานนท์
สำหรับคนที่มากล่าวเชิญเช้าสู่ Session ของวงเสวนา “The Power of 2 Gens” พลังของคนต่างวัยที่จะขับเคลื่อนโลกไปด้วยกัน คงไม่มีใครเหมาะสมไปกว่าคุณยายเอื้อนจิตร ไตละนันทน์ วัย 83 ปี และคุณวิรากานต์ ไตละนันทน์ หลานสาว ที่มนุษย์ต่างวัยเคยนำเสนอเรื่องราวของทั้ง 2 คนที่เป็นลมใต้ปีก สนับสนุนกันและกันจนทำให้ธุรกิจร้านขนมไทยโบราณของครอบครัวไปต่อได้ ซึ่งตรงกับคอนเซ็ปต์ของวงเสวนา
มนุษย์ต่างวัยได้มอบโจทย์ให้คุณยายเอื้อนจิตรและหลานสาวขึ้นมาเล่าเรื่องราวของธุรกิจ
“ขนมไทยคุณยายเอื้อนจิตร” แต่ด้วยความที่คุณยายเอื้อนจิตรอายุมากแล้ว ทำให้ทีมงานลุ้นกันอยู่ว่าคุณยายจะขึ้นพูดบนเวทีได้ไหม แต่วันนั้นคำพูดสั้น ๆ ของคุณยายก็ช่วยสร้างรอยยิ้มให้กับผู้ฟังในห้องประชุมที่ต่างก็อมยิ้มกันไม่หยุด และชื่นชมในความแข็งแรงของคุณยาย
“คุณยายเอื้อนจิตร ปีนี้อายุ 83 ปีแล้ว หลังจากหลานเข้ามาช่วยก็เห็นว่า คุณยายมีความสุขมากขึ้นทุกวันยายมีความสุขที่ได้ไลฟ์สดขายขนมกับหลาน”
แขกรับเชิญตัวจี๊ด ที่ทำให้เวทีลุกเป็นไฟ ด้วยพลังงานสุดแอคทีฟนั่นก็คือ
อาม่า – สุธารัตน์ กิจติเวชกุล หรือ อาม่าซูเปอร์แอคทีฟ
อาม่าเป็นคนวัย 70+ ที่ใช้ชีวิตนอกกรอบจากผู้สูงวัยที่เราจินตนการ จนทำให้เราเปลี่ยนทัศนคติแบบเดิม ๆ ที่มีต่อผู้สูงวัย ครั้งนี้มนุษย์ต่างวัยชวนอาม่ามาบอกความในใจของคนสูงวัยให้ลูกหลานฟัง ว่าแท้จริงแล้วผู้สูงวัยยุคนี้ต้องการอะไร และอยากมีชีวิตแบบไหน ซึ่งอาม่าก็พูดออกมาได้ชัดเจน ตรงประเด็น และเปิดมุมมองให้เราได้เข้าใจผู้สูงวัยมากขึ้น
“ใคร ๆ ก็ชอบคิดว่าเป็นผู้สูงวัยจะชอบกิน ๆ นอน ๆ อยู่บ้าน แต่ความจริงแล้วไม่ใช่ ไปไหนก็ไป ไปเที่ยวไหนก็ไป ไม่ชอบอยู่บ้านเฉย ๆ อยากใช้ชีวิตมีพลังเหมือนหนุ่มสาว เพราะฉะนั้นอยากฝากให้ลองคิดหรือทำของที่ผู้สูงวัยจำเป็นต้องใช้ และเหมาะสมกับผู้สูงวัยด้วย”
คนสูงวัยที่ปรากฏตัวพร้อมกล้ามแขนเป็นมัด ๆ และซิกแพคแบบที่วัยรุ่นต้องอิจฉา คือพี่แดง – กัลป์ชัย อารีสินพิทักษ์ นักเพาะกายสูงวัย ที่หันมาออกกำลังกายในวัย 50+ และทำอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลาเกือบ 20 ปี
แค่พี่แดงปรากฏตัวขึ้นในงาน ก็ช่วยตอกย้ำสิ่งที่มนุษย์ต่างวัยอยากพูดถึง นั่นคือการมองนอกกรอบเรื่องสุขภาพที่คนส่วนใหญ่มักจะคิดว่าแก่แล้วจะต้องอ่อนแอ และไม่แข็งแรง แต่การปรากฏตัวของพี่แดงและคำพูดสั้น ๆ ช่วยทำให้หลายคนเปลี่ยนความคิด
“จริง ๆ ยังไม่สายสำหรับพวกเราที่จะมาออกกำลังกาย แล้วเราจะรู้เลยว่าร่างกายเราแข็งแรงขึ้น มีความสดชื่น กระปรี้กระเปร่ามากขึ้น ร่างกายของเรามหัศจรรย์ถ้าเราไม่ใช้มันยิ่งลีบยิ่งอ่อนแรง แต่ถ้าเรายิ่งใช้มันก็ยิ่งแข็งแรง”
ใน Session ชีวิต ซีซัน 2 เป็น Session สำคัญที่มนุษย์ต่างวัยต้องการบอกว่า ชีวิตมีมากกว่า 1 ซีซัน และการเริ่มต้นใหม่ ๆ เกิดขึ้นได้เสมอไม่ว่าจะอยู่ในวัยไหน เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้คนทั้งก่อนและหลังวัยเกษียณ หรือแม้แต่คนในเจนฯ อื่นได้ลองค้นหาสิ่งที่ตัวเองอยากเริ่มต้นลงมือทำ ไม่ว่าจะเป็นงานอดิเรก การงาน อาชีพ หรือแม้แต่กิจกรรมที่ทำให้ชีวิตมีความสุข ทำให้หันกลับมาเห็นคุณค่าและความหมายของชีวิต
ป้าเจี๊ยบ – นงลักษณ์ ชัยฤทธิไชย นักสเก็ตบอร์ดทีมชาติไทยวัย 66 ปี รับหน้าที่กล่าวแนะนำ Session นี้ในวันนั้น เพราะเธอน่าจะเป็นหนึ่งในคนที่ผ่านมาแล้วหลายซีซันเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นช่วงวัยที่ผ่านความเจ็บป่วยจากโรคมะเร็ง การเริ่มต้นฝึกฝนจนกลายเป็นนักกีฬาสเก็ตบอร์ดดาวน์ฮิลวัยเกษียณที่มีเพื่อนร่วมทีมเป็นคนรุ่นลูก
“ตอนนี้อายุ 66 ปี เป็นนักกีฬาสเก็ตบอร์ดดาวน์ฮิลทีมชาติไทย มันก็เหมือนเป็นชีวิตซีซันใหม่ที่ทำให้เราได้เปิดโลกกว้างในวัยนี้ พอมาถึงตอนนี้ป้าเจี๊ยบก็ยังไม่เลิกลองทำอะไรใหม่ ๆ ทดลองทำไปเรื่อย ๆ เพราะคำว่าเกษียณ คำว่าอายุก็คือตัวเลข”