ทุกครั้งที่รับฟังอย่างเป็นภาชนะที่ว่าง ผมจะได้น้ำชาถ้วยใหม่เสมอ – เอ๋ สราวุธ เฮ้งสวัสดิ์ (นิ้วกลม)

“ตัวตนของเราประกอบขึ้นจากสิ่งที่เราได้ฟัง เรื่องของการรับฟังนี้เป็นประโยชน์ต่ออัตตาของเราด้วย ทุกครั้งที่เราเป็นภาชนะที่ว่าง นั่นหมายถึงเรากำลังสลายขอบเขตของเราออกไปเรื่อย ๆ และเราจะเข้าใกล้ความเป็นจริงมากขึ้น”

มนุษย์ต่างวัยสรุปเนื้อหาจาก Minimal talk show ในหัวข้อ “ผมต้องการคนรับฟัง” โดย คุณเอ๋ นิ้วกลม – สราวุธ เฮ้งสวัสดิ์ นักเขียนผู้บอกเล่าประสบการณ์จากการเป็นผู้รับฟัง และความมหัศจรรย์ของการฟัง จากงาน Soul Connect Fest 2025 : HUMANICE มหกรรมพบเพื่อนใจ ที่จัดขึ้น ณ สามย่านมิตรทาวน์ เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา

การเป็นภาชนะที่พร้อมรองรับน้ำชาจากกาใบใหม่

“การฟังที่ดี มีหน้าตาเหมือนกับภาชนะที่ว่าง พร้อมที่จะรองรับทุกสิ่งทุกอย่างที่ผู้พูดเทลงมา ไม่มีสิ่งที่อยู่ในหัวของเราติดมา โดยที่เราไม่เพียงคาดหวังว่าจะต้องได้รับแต่สิ่งที่ดีเท่านั้น แต่เราอยู่ตรงนั้นเพื่อใครสักคน ผมว่าสิ่งนี้แหละคือการเป็นผู้ฟังที่ดี ดังนั้นผมจึงอยากชวนให้ทุกคนลองเทน้ำชาออกจากภาชนะของเราก่อนจะรับฟังใคร อาจฟังดูง่าย แต่การทำจริงนั้นไม่ง่าย

“ผู้ฟังที่ดีนั้นต้องพร้อมที่จะรับฟังสิ่งที่อาจขัดใจเราได้ แม้ว่าเขาอาจพูดสิ่งที่ขัดแย้งกับความคิด ความรู้สึกของเรา แต่ถ้าเราเป็นผู้ฟังที่ดีเราจะอยู่ตรงนั้นกับเขาได้ และจะดีมากเลยเมื่อเราเป็นคนที่มีความสำคัญกับคนใดคนหนึ่ง ตัวอย่างเช่น เราเป็นพ่อแม่ ที่พร้อมจะรับฟังลูกได้แม้ว่าลูกจะสอบตก หรือแม้กระทั่งพลั้งพลาดไป เราก็พร้อมที่จะรับฟังสิ่งนั้นในฐานะภาชนะที่ว่างเปล่า หากทำได้เราจะกลายเป็นพื้นที่ที่สำคัญมากสำหรับลูก

พื้นที่ปรากฎของความจริง

“แต่ละคนมีความสามารถในการคลี่คลายอารมณ์ความรู้สึกของตัวเอง เมื่อเขาได้ระบายสิ่งนั้นออกมา แล้วเมื่อถึงจุดหนึ่งเขาจะตระหนักได้ขึ้นมาว่า สิ่งที่เขาเป็นอยู่มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ และจะยอมรับที่จะอยู่กับมัน แม้ว่าอาจไม่ได้คลี่คลายได้ทั้งหมดแต่มันเกิดปัญญาขึ้นจากการมองเห็นความเป็นจริง ไม่ต้องเอามันไปกลบฝังไว้ เอามันออกมา เห็น ทำความเข้าใจ และอยู่กับมัน สิ่งนี้คือสิ่งที่มนุษย์ทุกคนมีศักยภาพที่จะทำได้ แต่สิ่งนั้นจำเป็นต้องมีพื้นที่ให้ความจริงในตัวได้ปรากฎออกมา การเป็นภาชนะที่ว่างให้กับคนคนหนึ่งจึงเป็นพื้นที่ปรากฎของความจริงสำหรับเขา

“การเป็นผู้ฟังที่ดี คนที่คุยกับเราจะรับรู้ได้ว่ามีคนรับฟังเขา เห็นตัวตนของเขา ซึ่งในโลกนี้จะมีสักกี่คนที่เห็นตัวตนจริง ๆ ของเรา และเมื่อเขาได้เผยตัวจริงออกมา เราจะใกล้ชิดกันมากขึ้น

“นอกจากนั้นแล้ว การรับฟัง ยังช่วยให้เรารับรู้ความเป็นจริงของโลกมากยิ่งขึ้น เพราะโลกไม่ได้เป็นไปตามที่เราคาดหวังเสมอ เมื่อเรามีพื้นที่ให้กับความจริงนั้นเราจะไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่กับความคาดหวังและจะค่อย ๆ เห็นความจริงปรากฎออกมาผ่านมนุษย์ด้วยกัน และยังเป็นการขยายขอบเขตความจริงเดิมที่เรารับรู้อยู่ให้กว้างขวางยิ่งขึ้นจากการรับฟังความรู้และประสบการณ์ที่มีความหลากหลาย

การรับฟังกับความสำเร็จในชีวิต

“เราต้องการประสบความสำเร็จส่วนหนึ่งเพราะเราต้องการการยอมรับ ชื่นชม รู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม แต่ในความเป็นจริงเราไม่จำเป็นต้องประสบความสำเร็จก็ได้ เพียงเราเป็นคนสำคัญสำหรับใครสักคน แล้วเขาคนนั้นเป็นสิ่งนั้นสำหรับเราด้วย และยิ่งเราเป็นสิ่งนั้นให้กับหลาย ๆ คนเราจะไม่โหยหาความสำเร็จเท่าเดิม เราจะไม่ต้องการพิสูจน์ตัวเองด้วยการรอให้มีคนชื่นชมว่าเราเก่ง เราอาจจะไม่ต้องเก่งก็ได้ แต่มีคนยอมรับเราแม้ว่าเราจะไม่เก่งได้ และเรายอมรับเขาแม้ว่าเขาจะไม่เก่งได้ ผมว่าเป็นสิ่งที่มีคุณค่ามากกว่า และสิ่งนี้แหละคือความสำเร็จในชีวิต

วินาทีที่จิตวิญญาณเชื่อมถึงกัน

“ในช่วงเวลาที่เราเป็นภาชนะว่าง หน้ากากที่เราใส่ไว้ว่าเราต้องเป็นคนที่เก่ง ต้องดูดี ต้องสมบูรณ์แบบ มันจะหลุดออกมา แล้ว soul จะ connect ทันที ช่วงเวลาที่เราได้เห็นใครสักคนพังทลายต่อหน้าเรา ร้องไห้ออกมาต่อหน้าเรา ผมมองว่านั่นเป็นช่วงเวลาที่มีเกียรติ ไม่ใช่ใครก็ได้ที่เขาจะแสดงสิ่งเหล่านั้นออกมาให้เห็น นั่นแสดงว่าคุณเป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับคนตรงหน้าอย่างมาก นั่นคือช่วงเวลาที่หัวใจของเราแตะกัน หัวใจของเขามาเป็นหัวใจของเราเรียบร้อยแล้ว แล้วเราจะเข้าใจคนคนนั้นมากยิ่งขึ้น จังหวะที่เปลี่ยนหัวใจใส่กันผมว่ามันคือ Magic Moment

“การเป็นภาชนะที่ว่าง เพื่อให้ใครสักคนได้เป็นตัวเขาอย่างแท้จริง ณ วินาทีนั้น soul ของเราจะ connect กัน แล้วชีวิตของเราจะมีความหมาย”

Credits

Author

ถึงจะต่างวัยแต่ก็
อยู่ร่วมกันอย่างเข้าใจ