นอกจากคาเฟ่ ร้านอาหาร ที่มนุษย์ต่างวัยพาเพื่อนๆ ไปเยี่ยมเยือนมาตลอดทั้งปี โฮมสเตย์จากหลากหลายภาคที่ทั้งหมดล้วนเป็นโฮมสเตย์ของคุณลุง คุณป้า วัยเกษียณ ที่มีจุดเริ่มต้นมาจากความสุขและแรงสนับสนุนของคนในครอบครัวก็เหมาะแก่การแวะไปพักผ่อน
โอกาสนี้ใครกำลังมองหาที่พักกาย พักใจ ในช่วงส่งท้ายปี มนุษย์ต่างวัยขออาสาพาไปเช็กอินให้สบายใจกับ 7 โฮมสเตย์บรรยากาศอบอุ่น ที่ไม่ใช่แค่ที่พักกาย แต่ยังอยากให้ทุกคนได้พักใจเหมือนได้ไปพักผ่อนที่บ้านญาติ
‘บ้านต้นไม้ ร้อยหวันนอนฟังสายน้ำ’ นี่คือที่พักหลักร้อย แต่ราคาวิวหลักล้าน ราคาเดียวทั้งปี ตั้งอยู่ที่อำเภอป่าพะยอม จังหวัดพัทลุง มีเจ้า ของคือ สุรศักดิ์ เย็นทั่ว หรือ พี่จู ร้อยหวัน อดีตนักอนุรักษ์เจ้าของโรงเรียนในป่าลึก ที่สู้เพื่อเด็กๆ จนหมดทุนก้อนสุดท้าย ก่อนจะผันตัวมาทำโฮมสเตย์เล็กๆ ใกล้ป่าต้นน้ำ และเริ่มต้นชีวิตใหม่ในบ้านเกิด โดยมีสโลแกนคือ “สงบเงียบ เรียบง่าย ดิบๆ แล้วก็ไม่วิ่งตามใคร”
แม้ที่นี่จะปราศจากสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น แอร์ คาราโอเกะ อาหาร Breakfast ที่สำคัญ ไม่ได้ต้อนรับทุกคน หากใครอยากมาต้องจองล่วงหน้า เท่านั้น แต่ก็เพราะว่าที่นี่อยากดูแลกาย ดูแลใจ ผู้ที่มาพักอย่างเต็มที่ ไม่ใช่แค่มาท่องเที่ยว แต่มาเพื่อหอมแก้มป่า โอบกอดต้นไม้ และกลับคืนสู่ธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่
ดังนั้นนักท่องเที่ยวที่มาพักจะได้สัมผัสกับอากาศบริสุทธิ์ และลำธารใสๆ จากเทือกเขาบรรทัดที่จะไหลผ่านมาให้ลงไปนอนแช่ ชมนกชมไม้และหลงไหลไปกับธรรมชาติท่ามกลางป่าใหญ่ พร้อมกับบริการบุฟเฟต์ผลไม้ที่จัดเสิร์ฟมาให้ทานหลากหลายที่จัดเต็มมาเอาใจคนที่อยากอยู่กับธรรมชาติจริงๆ
ที่อยู่ : ตำบล เกาะเต่า อำเภอ ป่าพะยอม จังหวัดพัทลุง
บ้านต้นไม้ทุกแบบ : หลังละ 1000 บาท / นอนได้ 2-3 คน
เต็นท์ : คนละ 200 บาท
โทร. : 099-2052898
Facebook : https://bit.ly/3mDJ0kp
‘โฮมสเตย์ริมธารท้ายสวนลุงเติม’ อีกหนึ่งที่พักบรรยากาศเป็นกันเอง ที่จังหวัดราชบุรี เจ้าของคือ ลุงทองเติม ทุรันตะวิริยะ วัย 78 ปี อดีตศิลปินนักวาดภาพและนายหน้าขายภาพวาด ที่เคยใช้ชีวิตในเมืองจนรู้สึกว่าชีวิตที่เป็นอยู่ไม่ใช่สิ่งที่ตนเองต้องการ จึงตัดสินใจใช้ทุนที่เหลือทำที่พักกลางป่าพาภรรยามาใช้ชีวิตบั้นปลายที่แสนอิสระ และมีเวลาทำสิ่งที่รักนั่นคือการ “วาดภาพ”
โฮมสเตย์ที่นี่ราคาหลักร้อย ดูแลโดยลุงเติมและภรรยา เป็นหนึ่งในที่พักที่นักท่องเที่ยวสายธรรมชาติบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ได้สูดอากาศบริสุทธิ์กลับไปเต็มปอด ได้นอนฟังเสียงธรรมชาติ แถมยังมีลำธารไหลเย็นตลอดทั้งปี เหมือนได้พาตัวเองกลับมาอยู่กับธรรมชาติอีกครั้ง
ที่อยู่ : 61 หมู่ 4 ตำบล ตะนาวศรี อำเภอ สวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี
โทร. : 081 383 0864
Facebook : https://bit.ly/ 3 z 2 JSUr
‘ภูผาตาด โฮมสเตย์’ ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางสายหมอก ขุนเขาและแม่น้ำ ในอำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี โดย มี ‘ลุงหมึก’ ชำนาญ มณีวงษ์ วัย 69 ปี เป็นทั้งเจ้าของบ้าน และพนักงานเพียงคนเดียว โดยที่นี่มีบ้านพักทั้ง 5 หลัง ตั้งอยู่ท่ามกลางสวนเกษตรอินทรีย์แบบผสมผสาน ที่ลุงหมึกลงมือปลูกด้วยน้ำพักน้ำแรง
หากให้ที่สนใจ นอกจากจะได้พบกับเจ้าของใจดี มีมิตรไมตรีกับแขกผู้มาเยือนทุกคน ยังจะได้สัมผัสกับกิจกรรมที่ทางลุงหมึกอาสาเป็นไกด์นำเที่ยว ทั้งเดินชมสวน ปั่นจักรยานเที่ยวชมธรรมชาติ แช่บ่อน้ำพุร้อนหินดาด เล่นน้ำ ณ น้ำตกผาตาด ไหว้พระพม่าอายุกว่า 100 ปี ที่อยู่ห่างจากโฮมสเตย์เพียง 2.5 กิโลเมตร สามารถปั่นจักรยานไปได้สบายๆ
สำหรับค่าบริการของภูผาตาด โฮมสเตย์ คิดเป็นแพ็คเกจต่อคน ราคาคนละ 850 บาท รวมอาหารเช้า – เย็น และเดินเก็บผลไม้ในสวนกินได้ตามสบาย ด้วยเหตุนี้จึงไม่แปลกที่คนที่เคยมาพักที่นี่จะแวะกลับมาอีกครั้ง
ที่อยู่ : ตำบลหินดาด อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี
โทร. : 087 922 6187
Facebook : https://bit.ly/32yhCx8
‘โฮมสเตย์ ลุงสนั่น บ้านปากประ’ จังหวัดพัทลุง โฮมสเตย์สุดอินดี้แห่งนี้มีเจ้าของคือคุณลุงสนั่น เลื่อนแป้น วัย 78 ปี ที่ลงมือปลูกสร้างบ้านทุกหลังด้วยตัวเองเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว นอกจากนี้คุณลุงยังทำหน้าที่เป็นไกด์นำเที่ยววิถีชุมชนบ้านปากประ ถ่ายทอดเรื่องราวของ จ.พัทลุง ให้กับผู้ที่มาเยือนฟังอย่างภาคภูมิใจ พร้อมกับพาไปล่องเรือชม ‘ยอยักษ์ ตักตะวัน’ เก็บสายบัวจากทะเลบัวแดงมาปรุงเป็นอาหาร
สำหรับใครที่สนใจไปเที่ยว ไปพัก ที่นี่ยังมีจุดชมวิวอีกหลายจุดอยู่ใกล้ๆ เช่น สะพานเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 ที่สร้างเชื่อมระหว่างสองจังหวัดตามแนวทะเลน้อย อ.ควนขนุน จ.พัทลุง และ ทะเลหลวง อ.ระโนด จ.สงขลา ซึ่งเป็นสะพานมีความยาวที่สุดในประเทศไทย พร้อมกับชมธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นนกนานาชนิดที่อพยพมาจากไซบีเรีย และควายเล่นน้ำ ตลอดสองข้างสะพานที่ยาวสุดลูกหูลูกตา
ที่อยู่ : 171 หมู่ 4 บ้านปากประ ถนนลำปำทะเลน้อย ตำบลพนางตุง อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง
โทร. : 081 738 8271
Facebook : https://bit.ly/3mzZWrQ
‘บ้านธารกล่อม’ โฮมสเตย์กลางป่าจังหวัดเชียงใหม่ ที่เริ่มต้นโดย แม่ติ๋ม-ศิริพร เค็งสม วัย 54 ปี อดีตนักเทคนิคการแพทย์ที่มาริเริ่มบุกเบิกที่ดินริมลำธาร ในวัย 50 ปี จนกลายเป็นโฮมสเตย์สุดชิคขวัญใจวัยรุ่น
จากการตัดสินใจของแม่ติ๋มที่ทำงานเก็บเงิน เพื่อซื้อที่ดินและกลับไปใช้ชีวิตบั้นปลายท่ามกลางธรรมชาติที่ อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อบ้านริมน้ำหลังแรกสร้างเสร็จเพื่อนๆ ต่างถูกใจ และขอมาพักด้วย จนแม่ติ๋มเห็นช่องทางว่าที่นี่สามารถรับแขกได้ ทำให้เธอตัดสินใจเปลี่ยนบ้านให้กลายเป็นโฮมสเตย์
กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างบ้านธารกล่อม ให้เป็นโฮมสเตย์ที่ใกล้ชิดธรรมชาติ เพื่อจะนำพาคนที่รักในธรรมชาติเหมือนกัน ได้มาพบกัน โดย ปัจจุบันมีบ้านกว่า 14 หลัง 14 สไตล์ ราคาเริ่มต้นที่ 1,300 – 2,500 บาท / คืน (ราคานี้รวมอาหารเช้า)
ที่อยู่ : ตำบลกึ้ดช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่
โทร : 095 690 1827
Facebook : https://bit.ly/3qmsmGM
‘ลุงชวนป้ารี โฮมสเตย์’ อยู่ที่จังหวัดพะเยา ที่นี่คือ ธุรกิจหลังเกษียณของสองลุง-ป้า ใจดี ที่เริ่มต้นจากความคิดที่ว่า อยากหากิจกรรมทำในช่วงเกษียณอายุ โดยที่ทั้งคู่สามารถใช้ต้นทุนเดิมของตนเองทำได้ สำหรับใครที่สนใจ
นอกจากที่พักสไตล์บ้านๆ ที่นี่ยังมีบริการอาหารเหนือรสมือป้ารี และกิจกรรมพาเที่ยวรอบพะเยาไปกับลุงชวน ตื่นเช้ามาชมพระอาทิตย์ขึ้นที่จุดชมวิวบ่อ 12 และผ่อนคลายแบบบ้านๆ ไปกับสปาบ้านทุ่ง สปาสุ่มไก่สไตล์
ทั้งหมดนี้ไม่ได้เป็นเพียงรายได้ใหม่ในวัยเกษียณของลุงและป้า แต่ยังเป็นเหมือนประตูที่เปิดโอกาสให้ท่านทั้งสองได้เจอกับมิตรภาพหน้าใหม่ๆ ที่ทำให้วัยเกษียณไม่ต้องเหงาอีกต่อไป
ที่อยู่ : 118 ซอย 4 หมู่ 2 บ้านตุ่นกลาง ตำบลบ้านตุ่น อำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา
โทร. : 0939592971
Facebook : https://bit.ly/3Fxj3dH
‘บ้านลุงสอนโฮมสเตย์’ ตั้งอยู่ในชุมชนแสนตอ ชุมชนประมงเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ในกรุงเทพ เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางชายฝั่งทะเลบางขุนเทียน เหมาะมากๆ สำหรับคนที่มีเวลาไม่มากแต่อยากเที่ยวทะเล
โดยมีเจ้าของคือคุณลุงสอน วัย 77 ปี ที่นอกจากจะทำหน้าที่ให้บริการที่พัก ยังทำหน้าที่เป็นไกด์นำเที่ยวชมธรรมชาติ ที่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวทดลองจับหอยแครงเองในฟาร์มหอยแครงที่ลุงสอนเป็นเจ้าของ และมีคุณป้าเอื้อน วัย 70 ปี รับหน้าที่เป็นแม่ครัวมือฉมัง คอยปรุงอาหารทะเล สด ใหม่ ที่ใครได้ชิมต้องติดใจ
ที่อยู่ : ชุมชนคลองแสนตอ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ
โทร . : 084 015 0300