ตลอดปีที่ผ่านมา มนุษย์ต่างวัยได้มีโอกาสนำเสนอคาเฟ่ ร้านอาหาร จากหลายๆ ภาค ที่ทั้งหมดล้วนมีจุดเริ่มต้นจากความรักของครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นพ่อลูก ยายหลาน ฯลฯ
เนื่องด้วยใกล้เทศกาลหยุดยาวนี้ เราจึงอยากชวนไปเก็บความอบอุ่น กับ 8 คาเฟ่ชิคๆ และร้านอาหารที่ไม่ได้มีดีแค่รสชาติ แต่พร้อมเสิร์ฟทุกเมนูให้กับลูกค้าด้วยความใส่ใจ เอาใจคนที่อยากใช้เวลาอยู่กับคนรัก เพื่อน หรือครอบครัว ในช่วงเทศกาลแห่งความสุขแบบนี้
‘Sticky willy house’ โฮมคาเฟ่แห่งแรกของโคราชที่ขาย ‘ชา’ เพียงอย่างเดียวเท่านั้น
จากจุดเริ่มต้นของ กระตั้ว-นันทพัทธ์ พนิตวรนันท์ ที่เลือกทิ้งชีวิตการเป็น Fashion Coordinate ของ DONT Magazine กลับมาโคราช และเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้งกับ “แม่” ที่ถูกตรวจพบว่าเป็นมะเร็งปากมดลูก เธอจึงทำทุกทางเพื่อรักษาแม่จนมาพบกับการใช้ชาบำบัด จนกลายมาเป็นจุดเริ่มต้นของ ‘Sticky willy house’ ร้านชาออร์แกนิก 100% ที่สรรค์สร้างจากแรงบันดาลใจและความรักที่เธอมีต่อแม่
พิกัด : ซอยตรงข้ามร้านรวมวิทยา ถนนยมราช ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา
LINE ID : @stickywilly
โทร. : 081 438 5855
‘บ้านหมากม่วง’ ที่นี่คือคาเฟ่และสวนมะม่วงขนาดใหญ่ ที่ใครมาปากช่องต้องแวะมาสักครั้ง
จากสวนมะม่วงของพ่อ ถูกพลิกโฉมให้กลายเป็นคาเฟ่ขวัญใจคนรักมะม่วง ตามแนวคิดของลูกสาว แนน-วราภรณ์ มงคลแพทย์ เกษตรกรรุ่นใหม่ที่เลือกกลับมาสานต่อธุรกิจของครอบครัวจนประสบความสำเร็จ เปลี่ยนจากร้านขายมะม่วงข้างทาง เป็นธุรกิจที่เพิ่มมูลค่า มีฟาร์มช็อปจำหน่ายผลิตภัณฑ์แปรรูปจากมะม่วงที่ผลิตเอง พร้อมอ้าแขนต้อนรับนักท่องเที่ยวมาชิมเมนูที่ล้วนทำมาจากมะม่วงทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นไอศกรีมมะม่วง มะม่วงแช่แข็งเสียบไม้ มะม่วงกวน มะม่วงอบแห้ง มะม่วงลอยแก้ว พุดดิ้งมะม่วง และเมนูที่พลาดไม่ได้เลยคือ ข้าวเหนียวมะม่วงที่เสิร์ฟทั้งเนื้อมะม่วงสุกและไอศกรีมม่วงแบบจัดเต็ม
นอกจากจะจำหน่ายผลิตภัณฑ์แปรรูปของตัวเองแล้ว บ้านหมากม่วงยังมีความเอื้อเฟื้อ รับผลผลิตของเกษตรกรใกล้เคียงมาวางจำหน่าย จนเกิดเป็นเครือขายในกลุ่มเกษตรกร และนำไปสู่การกระจายรายได้ให้กับคนในชุมชน
พิกัด : ร้านบ้านหมากม่วง 60/3 ม.5 ซ.บ้านเขาแคบ, หนองน้ำแดง อำเภอปากช่อง นครราชสีมา
โทร. : 094 521 1121
เพื่อรักษาสมบัติชิ้นสุดท้ายของแม่ ทราย (ลูกสาว) จึงตัดสินใจกลับบ้านมาสานต่อสูตรน้ำพริกของแม่ และเปลี่ยนน้ำพริกหาบเร่ เป็นน้ำพริกจานสวย ที่หากใครผ่านมาแถวจันทบุรีต้องแวะมาฝากท้อง เพราะนอกจากรสชาติจะถูกปาก ความเป็นกันเองของแม่-ลูก เจ้าของร้าน ยังทำให้ลูกค้าบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า เหมือนได้มากินข้าวที่บ้านญาติ จนปัจจุบันโด่งดังมีชื่อเสียง กลายเป็นร้านอาหารขึ้นชื่อของ จ.จันทบุรี โดยชูน้ำพริกของแม่อิ๊ดที่เป็นสูตรโบราณสืบทอดมาตั้งแต่รุ่นตา-ยาย
สำหรับเมนูเด็ดของร้านที่แม่อิ๊ดแนะนำเลยคือ สำรับเสบียงจันท์ ที่จะรวมเมนูอาหารพื้นเมืองขึ้นชื่อของจันทบุรีมาไว้ในสำรับเดียว สำรับกินข้าวกินปลา สำรับข้าวน้ำพริกไข่ปู คั่วแห้งหน่อกระทือ ปลาแห้งแตงโม หรือเมนูกินเล่นอย่าง เมี่ยงอินเลิฟ
พิกัด : หมู่ 1 ถนนพระยาตรัง ตำบล ท่าช้าง อำเภอเมืองจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี
โทร. : 096 694 9564
หากใครมีแผนแวะไปเที่ยวที่จังหวัดภูเก็ต ต้องไม่พลาดแวะไปฝากท้องที่ร้านอาหารพื้นบ้านสไตล์ ‘กินกับอี๋’ ที่การันตีความอร่อยด้วยรางวัลมิชลินไกด์ 2 ปี ซ้อน โดยจุดเริ่มต้นของร้านกินกับอี๋มาจากความตั้งใจของหลานสาวที่ไม่อยากให้รสชาติอาหารของอี๋ตายไปพร้อมกับอี๋ จึงลุกขึ้นมาชวน อี๋ซิ้ม (ป้า) วัย 72 ปี เปิดร้านอาหารและเริ่มทำงานในวัยเกษียณอีกครั้ง โดยร้านจะเปิดเพียงสัปดาห์ละ 3 วัน ใครสนใจต้องจองล่วงหน้าเท่านั้น เพื่อให้อี๋ได้อวดลวดลายการทำอาหารรสดั้งเดิมของภูเก็ต สารพัดเมนู ครัวแบบบ้านๆ ของอี๋ ทั้งน้ำชุบเยาะ หมูฮ้อง หมูอี๋ ปลาทอดเครื่อง ทำให้วันนี้ “กินกับอี๋” กลายเป็นร้านอาหารรางวัลมิชลิน ไกด์ ที่ไม่ว่าใครมาภูเก็ตไม่ได้มาเจออี๋ซิ้มนุ่งผ้าถุงทำกับข้าวถือว่ามาไม่ถึง
พิกัด : 81 ถนนศรีสุนทร ตำบลศรีสุนทร อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต
ติดต่อ : 095 428 7195
ชวนไปแอ่ว จ.เชียงใหม่ ชมสวนดอกไม้ ‘I Love Flower Farm’ พร้อมกับชิมขนมพื้นบ้านและน้ำสมุนไพรเย็นๆ จากฝีมือผู้สูงวัยในชุมชน ท่ามกลางดอกคัตเตอร์และดอกมากาเร็ตบานสะพรั่ง โดยที่นี่คิดค่าเข้าเพียงท่านละ 70 บาท พร้อมรับ welcome set ซึ่งเป็นขนมพื้นบ้าน ไม่ว่าจะเป็น ขนมตองตึง ขนมวง ขนมต้ม ข้าวเปี่ยง และน้ำสมุนไพร ที่ผู้สูงวัยตั้งใจทำทุกเมนู แถมยังเสิร์ฟมาพร้อมกับวัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยในแต่ละวันที่นี่จะจำกัดคนเข้าชมเพียง 200 คนต่อวัน หากใครมีแผนเดินทางขึ้นเชียงใหม่ สวนดอกไม้แห่งนี้อยู่ห่างจากตัวเมืองแค่ 15 กิโลเมตรเท่านั้น
พิกัด : 33 ตำบลเหมืองแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่
โทร. : 088 266 7885
อีกหนึ่งจุดเช็กอินที่น่าสนใจ มนุษย์ต่างวัยขอแนะนำ “บ้านตาแก่” ตั้งอยู่ที่ริมคลองบางกอกน้อย วัดบางกร่าง ใกล้วงเวียนพระรามห้า จังหวัดนนทบุรี เดิมทีที่นี่เป็นบ้านโบราณเก่าแก่อายุ 100 ปี แต่ปัจจุบันถูกนำมาแปลงเป็นแหล่งเช็กอินริมคลองบางกอกน้อยสุดชิล ในรูปแบบ Chilling Space ที่เชื้อเชิญให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาสัมผัสกับวิถีชีวิตริมน้ำ พร้อมลิ้มรสอาหารโบราณ หากกินยาก จากรสมือของแม่ครัวรุ่นใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น แกงกระท้อนกุ้ง แกงกะลามะพร้าว ม้าฮ่อ เมี่ยงปลาทูสมุนไพร และข้าวเหนียวหน้ากลอย และทีเด็ดเลยคือ แกงกระท้อนกุ้ง ซึ่งกระท้อนเป็นผลไม้อัตลักษณ์ของชาวบางกร่างที่จะมีเฉพาะแค่บางช่วงฤดูกาลเท่านั้น
นอกจากนี้ยังมีโอกาสได้สัมผัสกับเรือขายอาหาร ทั้งส้มตำ ไอติม เป็ดพะโล้ ก๋วยเตี๋ยว หมูสะเต้ะ ที่พร้อมจะขับมาเทียบหัวสะพานที่บ้านตาแก่ ให้อิ่มท้องกันถึงที่ ตกตอนบ่ายยังได้ล่องเรืออีแปะเยี่ยมชมบรรยากาศคลองบางกอกน้อย หรือแวะเดินเล่นลงตลาดน้ำวัดตะเคียนเพื่อหาของกินอร่อยๆ ติดท้อง ติดมือกลับบ้าน
สำหรับใครที่สนใจแวะมาต้องจองล่วงหน้าก่อนเท่านั้น โดยราคาวันธรรมดาอยู่ที่ 1,000 บาท /8 ท่าน ส่วนวันหยุด 1,200 บาท/ 8 ท่าน เพราะที่นี่มีบ้านแค่หลังเดียวและสามารถรับแขกได้แค่กลุ่มเดียวต่อวัน ตามคอนเซปต์ที่อยากทำบ้านให้เป็นพื้นที่ส่วนตัวของคนที่มากับคนรัก ครอบครัว หรือเพื่อนๆ เพื่อมากระชับความสัมพันธ์ พักผ่อนกับบรรยากาศที่เป็นวิถีริมคลองจริงๆ
พิกัด : ริมคลองบางกอกน้อย วัดบางกร่าง ใกล้วงเวียนพระรามห้า จังหวัดนนทบุรี
โทร. : 081 4914 230
