Customize Consent Preferences

We use cookies to help you navigate efficiently and perform certain functions. You will find detailed information about all cookies under each consent category below.

The cookies that are categorized as "Necessary" are stored on your browser as they are essential for enabling the basic functionalities of the site. ... 

Always Active

Necessary cookies are required to enable the basic features of this site, such as providing secure log-in or adjusting your consent preferences. These cookies do not store any personally identifiable data.

Functional cookies help perform certain functionalities like sharing the content of the website on social media platforms, collecting feedback, and other third-party features.

Analytical cookies are used to understand how visitors interact with the website. These cookies help provide information on metrics such as the number of visitors, bounce rate, traffic source, etc.

Performance cookies are used to understand and analyze the key performance indexes of the website which helps in delivering a better user experience for the visitors.

Advertisement cookies are used to provide visitors with customized advertisements based on the pages you visited previously and to analyze the effectiveness of the ad campaigns.

Recordoffee ร้านแผ่นเสียงที่เปิดพื้นที่ให้คน 2 เจนฯ มาแลกเปลี่ยนบทสนทนาผ่านเสียงเพลง

Recordoffee คือร้านขายแผ่นเสียงเคียงคู่สโลว์บาร์ของ “คุณบุ๊ค” อลงกต เอื้อไพบูลย์ วัย 54 ปี  ที่ตั้งใจเปิดร้านนี้ขึ้นมาเพื่อเป็นพื้นที่สำหรับสร้างมิตรภาพและบทสนทนาดี ๆ ตามคอนเซ็ปต์ร้านที่ว่า “อยากให้คนมาหยุดเวลาที่ร้านเรา มาหยุดคุยกับเรา ให้เด็กได้กลับมาอยู่ตรงนี้ คนรุ่นเดียวกันมาอยู่ตรงนี้ แล้วฟังเพลงยุค 80’s 90’s ไปกับเรา”

ร้านแผ่นเสียงเล็ก ๆ แห่งนี้จึงเป็นเสมือนจุดนัดพบกันของคนสองรุ่น ที่พัดพาคนหลากหลายเจเนอเรชันมานั่งย้อนเวลาในที่เดียวกัน โดยมีดนตรีเป็นจุดเริ่มต้นเชื่อมบทสนทนาและเรื่องราวในแต่ละวัน

อยากให้เด็กและคนรุ่นเดียวกันมาอยู่ตรงนี้ 

คุณบุ๊คย้อนเล่าให้ฟังว่า เดิมทำอาชีพเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ โฆษณา ก่อนจะตัดสินใจมาเปิดร้านเล็ก ๆ จากของสะสมที่เขารัก “มาเปิดร้านเพราะว่า ช่วงโควิด -19 ไม่มีอะไรทำ ก็เลยฟุ้งซ่าน เรารู้สึกว่าอยากให้แต่ละวันมันผ่านไปโดยมีจุดมุ่งหมาย เลยเริ่มเอาแผ่นเสียงที่ตัวเองมีที่บ้านมาเปิดฟัง แล้วเราก็เริ่มเห็นว่าทำไมแผ่นซ้ำเยอะแบบนี้ไปซื้อตอนไหน จะทำยังไงกับแผ่นพวกนี้ดี เลยอยากเปิดร้านแผ่นเสียง “เผื่อฟลุกให้คนคอเดียวกันได้มาเจอกัน” นั่นคือจุดเริ่มต้นของร้านแผ่นเสียง

สำหรับเขาระบบแอนะล็อกมันมีดีเทลที่น่าหลงใหล มีความชัด ละเอียด และมีมิติของเสียงบางอย่างที่หาไม่ได้จากในสตรีมมิ่ง เลยไม่แปลกใจเลยว่าทำไมผู้คนยังโหยหาและประทับใจในความละเมียดของเสียงนั้น


“เวลาเราได้เปิดแผ่นเสียงมันเหมือนเราได้หยุดเวลา มันทำให้เรานึกถึงความทรงจำในอดีต เลยคิดขึ้นมาได้ว่าถ้าสามารถทำให้คนอื่นรู้สึกเหมือนเราได้ก็คงจะดี แต่เราก็มาคิดว่าใครจะมาเพื่อนั่งฟังแผ่นเสียงอย่างเดียว เลยเปิดสโลว์บาร์ไว้คู่กัน ด้วยความที่มันเป็นกาแฟที่โคตรช้า ถ้าอยู่กับแผ่นเสียงก็คงจะดี เพราะเราเองก็ตั้งใจอยากให้คนได้ใช้ชีวิตช้าลงอยู่แล้ว เหมือนเข้ามาหยุดเวลาพักผ่อนนั่นแหละ”

อีกหนึ่งความใส่ใจของร้านนี้คือ คุณบุ๊คจะเวียนเปิดเพลงเก่าที่วัยรุ่นฟัง คนรุ่นเก่ามาก็โดนใจ คนรุ่นใหม่มาก็ชอบ นอกจากนี้เราว่าการตกแต่งสไตล์จีนร่วมสมัยก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่ทำให้คนหลายวัยมานั่งรวมกันได้แบบไม่เคอะเขิน ได้บรรยากาศเหมือนเข้ามาในบ้านของคนรู้จักที่มีคลังแผ่นเสียงรายล้อมกว่า 3,000 แผ่น อบอุ่นด้วยการพูดคุยที่พร้อมเปิดรับทุกคนที่เดินเข้ามาในพื้นที่แลกเปลี่ยนบทสนทนาของคนทุกวัย

“ตอนแรกเราก็ไม่ได้คิดถึงเรื่องเจนหรอก แต่มันเกิดจากความบังเอิญของคนที่เดินเข้ามา ร้านเรามีลูกค้าตั้งแต่อายุ 17 – 18 ปี ที่ชอบฟังแผ่นเสียง แล้วก็กลุ่มวัยรุ่นที่กำลังอยากรู้อยากลองตามเทรนด์ รุ่นใหญ่ที่คิดถึงอดีตก็เข้ามาเจอกันที่นี่โดยมีแผ่นเสียงเป็นตัวเชื่อมเจเนอเรชัน

“ตรงนี้ก็เลยเหมือนเป็นพื้นที่ให้เขาได้เข้ามานั่งคุย แลกเปลี่ยนกันว่าแผ่นนี้มันผลิตยังไง บางทีวัยรุ่นก็เอาเพลงใหม่ ๆ มาแชร์ มาเปิดฟัง เจนสองเจนนี้จากที่ไม่เคยคุยกัน เห็นต่างกัน รู้สึกว่าการใช้ชีวิตต่างกัน ก็ได้มาเจอกันโดยมีแผ่นเสียงเป็นตัวเชื่อม สไตล์เป็นตัวเชื่อม  

“เคยมีพ่อลูกเดินเข้ามาในร้านด้วยกัน คือพ่อคนนี้ในสายตาลูกเป็นคนเชย วันนั้นเขาติดรถพ่อมาแบบหน้าหงิกเลยนะ แต่พอได้เข้ามาในร้านเขาก็ตื่นเต้นแล้วก็แปลกใจว่าพ่อชอบอะไรทันสมัยแบบนี้ด้วยเหรอ จากที่เขาไม่ค่อยคุยกันเขาก็เริ่มเข้ามาฟังเราคุยกับพ่อเขา แล้วพ่อคือรู้ลึกมาก ดูเท่มากสำหรับเรา เลยยิ่งทำให้ความรู้สึกลูกเขาเปลี่ยนไป วันรุ่งขึ้นลูกกอดคอพ่อเดินเข้ามาเลย เหมือนเขากลับมามองพ่อเป็นไอดอลอีกครั้ง แล้วก็กลายเป็นว่าพ่อลูกคู่นี้จะชอบมานั่งฟังเพลงด้วยกัน เป็นลูกค้าประจำไปแล้ว

“แต่ก่อนเด็ก ๆ เขาอาจจะเคยมองว่าแผ่นเสียงเป็นเรื่องของคนแก่ แต่เดี๋ยวนี้ไวนิลกลับมาฮิต ก็ทำให้เราได้มีเรื่องมาแลกเปลี่ยนพูดคุยกันมากขึ้น”

คุณบุ๊คทิ้งท้ายกับเราว่า หลายครั้งที่บทสนทนาภายในร้านเริ่มจากเรื่องของเพลง แล้วค่อย ๆ ขยับไปสู่การบอกเล่าเรื่องราวชีวิต นั่นยิ่งทำให้เขารู้สึกว่า Recordoffee เป็นพื้นที่ที่สร้างความสุข เป็นจุดพบปะที่ทำให้ทุกคนได้มาพูดคุยกัน และเป็นอีกหนึ่งสถานที่ให้วัยเก๋าได้มาย้อนความทรงจำท่ามกลางเสียงดนตรีที่คุ้นเคยอีกครั้ง

ร้าน Recordoffee 

ที่อยู่ : 95 14-15 ถ. เจริญกรุง แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร 10100

 Facebook : https://www.facebook.com/recordoffee/? 

Credits

Author

  • พงศกร บุญภู่

    Photographerช่างภาพเชียงราย ที่หลงรักในทะเล ธรรมชาติ และเสียงเพลง สื่อสารภาพทางแววตาที่บ่งบอกถึงความรู้สึก

ถึงจะต่างวัยแต่ก็
อยู่ร่วมกันอย่างเข้าใจ