Recordoffee คือร้านขายแผ่นเสียงเคียงคู่สโลว์บาร์ของ “คุณบุ๊ค” อลงกต เอื้อไพบูลย์ วัย 54 ปี ที่ตั้งใจเปิดร้านนี้ขึ้นมาเพื่อเป็นพื้นที่สำหรับสร้างมิตรภาพและบทสนทนาดี ๆ ตามคอนเซ็ปต์ร้านที่ว่า “อยากให้คนมาหยุดเวลาที่ร้านเรา มาหยุดคุยกับเรา ให้เด็กได้กลับมาอยู่ตรงนี้ คนรุ่นเดียวกันมาอยู่ตรงนี้ แล้วฟังเพลงยุค 80’s 90’s ไปกับเรา”
ร้านแผ่นเสียงเล็ก ๆ แห่งนี้จึงเป็นเสมือนจุดนัดพบกันของคนสองรุ่น ที่พัดพาคนหลากหลายเจเนอเรชันมานั่งย้อนเวลาในที่เดียวกัน โดยมีดนตรีเป็นจุดเริ่มต้นเชื่อมบทสนทนาและเรื่องราวในแต่ละวัน
อยากให้เด็กและคนรุ่นเดียวกันมาอยู่ตรงนี้
คุณบุ๊คย้อนเล่าให้ฟังว่า เดิมทำอาชีพเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ โฆษณา ก่อนจะตัดสินใจมาเปิดร้านเล็ก ๆ จากของสะสมที่เขารัก “มาเปิดร้านเพราะว่า ช่วงโควิด -19 ไม่มีอะไรทำ ก็เลยฟุ้งซ่าน เรารู้สึกว่าอยากให้แต่ละวันมันผ่านไปโดยมีจุดมุ่งหมาย เลยเริ่มเอาแผ่นเสียงที่ตัวเองมีที่บ้านมาเปิดฟัง แล้วเราก็เริ่มเห็นว่าทำไมแผ่นซ้ำเยอะแบบนี้ไปซื้อตอนไหน จะทำยังไงกับแผ่นพวกนี้ดี เลยอยากเปิดร้านแผ่นเสียง “เผื่อฟลุกให้คนคอเดียวกันได้มาเจอกัน” นั่นคือจุดเริ่มต้นของร้านแผ่นเสียง
สำหรับเขาระบบแอนะล็อกมันมีดีเทลที่น่าหลงใหล มีความชัด ละเอียด และมีมิติของเสียงบางอย่างที่หาไม่ได้จากในสตรีมมิ่ง เลยไม่แปลกใจเลยว่าทำไมผู้คนยังโหยหาและประทับใจในความละเมียดของเสียงนั้น
“เวลาเราได้เปิดแผ่นเสียงมันเหมือนเราได้หยุดเวลา มันทำให้เรานึกถึงความทรงจำในอดีต เลยคิดขึ้นมาได้ว่าถ้าสามารถทำให้คนอื่นรู้สึกเหมือนเราได้ก็คงจะดี แต่เราก็มาคิดว่าใครจะมาเพื่อนั่งฟังแผ่นเสียงอย่างเดียว เลยเปิดสโลว์บาร์ไว้คู่กัน ด้วยความที่มันเป็นกาแฟที่โคตรช้า ถ้าอยู่กับแผ่นเสียงก็คงจะดี เพราะเราเองก็ตั้งใจอยากให้คนได้ใช้ชีวิตช้าลงอยู่แล้ว เหมือนเข้ามาหยุดเวลาพักผ่อนนั่นแหละ”
อีกหนึ่งความใส่ใจของร้านนี้คือ คุณบุ๊คจะเวียนเปิดเพลงเก่าที่วัยรุ่นฟัง คนรุ่นเก่ามาก็โดนใจ คนรุ่นใหม่มาก็ชอบ นอกจากนี้เราว่าการตกแต่งสไตล์จีนร่วมสมัยก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่ทำให้คนหลายวัยมานั่งรวมกันได้แบบไม่เคอะเขิน ได้บรรยากาศเหมือนเข้ามาในบ้านของคนรู้จักที่มีคลังแผ่นเสียงรายล้อมกว่า 3,000 แผ่น อบอุ่นด้วยการพูดคุยที่พร้อมเปิดรับทุกคนที่เดินเข้ามาในพื้นที่แลกเปลี่ยนบทสนทนาของคนทุกวัย
“ตอนแรกเราก็ไม่ได้คิดถึงเรื่องเจนหรอก แต่มันเกิดจากความบังเอิญของคนที่เดินเข้ามา ร้านเรามีลูกค้าตั้งแต่อายุ 17 – 18 ปี ที่ชอบฟังแผ่นเสียง แล้วก็กลุ่มวัยรุ่นที่กำลังอยากรู้อยากลองตามเทรนด์ รุ่นใหญ่ที่คิดถึงอดีตก็เข้ามาเจอกันที่นี่โดยมีแผ่นเสียงเป็นตัวเชื่อมเจเนอเรชัน
“ตรงนี้ก็เลยเหมือนเป็นพื้นที่ให้เขาได้เข้ามานั่งคุย แลกเปลี่ยนกันว่าแผ่นนี้มันผลิตยังไง บางทีวัยรุ่นก็เอาเพลงใหม่ ๆ มาแชร์ มาเปิดฟัง เจนสองเจนนี้จากที่ไม่เคยคุยกัน เห็นต่างกัน รู้สึกว่าการใช้ชีวิตต่างกัน ก็ได้มาเจอกันโดยมีแผ่นเสียงเป็นตัวเชื่อม สไตล์เป็นตัวเชื่อม
“เคยมีพ่อลูกเดินเข้ามาในร้านด้วยกัน คือพ่อคนนี้ในสายตาลูกเป็นคนเชย วันนั้นเขาติดรถพ่อมาแบบหน้าหงิกเลยนะ แต่พอได้เข้ามาในร้านเขาก็ตื่นเต้นแล้วก็แปลกใจว่าพ่อชอบอะไรทันสมัยแบบนี้ด้วยเหรอ จากที่เขาไม่ค่อยคุยกันเขาก็เริ่มเข้ามาฟังเราคุยกับพ่อเขา แล้วพ่อคือรู้ลึกมาก ดูเท่มากสำหรับเรา เลยยิ่งทำให้ความรู้สึกลูกเขาเปลี่ยนไป วันรุ่งขึ้นลูกกอดคอพ่อเดินเข้ามาเลย เหมือนเขากลับมามองพ่อเป็นไอดอลอีกครั้ง แล้วก็กลายเป็นว่าพ่อลูกคู่นี้จะชอบมานั่งฟังเพลงด้วยกัน เป็นลูกค้าประจำไปแล้ว
“แต่ก่อนเด็ก ๆ เขาอาจจะเคยมองว่าแผ่นเสียงเป็นเรื่องของคนแก่ แต่เดี๋ยวนี้ไวนิลกลับมาฮิต ก็ทำให้เราได้มีเรื่องมาแลกเปลี่ยนพูดคุยกันมากขึ้น”
คุณบุ๊คทิ้งท้ายกับเราว่า หลายครั้งที่บทสนทนาภายในร้านเริ่มจากเรื่องของเพลง แล้วค่อย ๆ ขยับไปสู่การบอกเล่าเรื่องราวชีวิต นั่นยิ่งทำให้เขารู้สึกว่า Recordoffee เป็นพื้นที่ที่สร้างความสุข เป็นจุดพบปะที่ทำให้ทุกคนได้มาพูดคุยกัน และเป็นอีกหนึ่งสถานที่ให้วัยเก๋าได้มาย้อนความทรงจำท่ามกลางเสียงดนตรีที่คุ้นเคยอีกครั้ง
ร้าน Recordoffee
ที่อยู่ : 95 14-15 ถ. เจริญกรุง แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร 10100
Facebook : https://www.facebook.com/recordoffee/?