Customize Consent Preferences

We use cookies to help you navigate efficiently and perform certain functions. You will find detailed information about all cookies under each consent category below.

The cookies that are categorized as "Necessary" are stored on your browser as they are essential for enabling the basic functionalities of the site. ... 

Always Active

Necessary cookies are required to enable the basic features of this site, such as providing secure log-in or adjusting your consent preferences. These cookies do not store any personally identifiable data.

Functional cookies help perform certain functionalities like sharing the content of the website on social media platforms, collecting feedback, and other third-party features.

Analytical cookies are used to understand how visitors interact with the website. These cookies help provide information on metrics such as the number of visitors, bounce rate, traffic source, etc.

Performance cookies are used to understand and analyze the key performance indexes of the website which helps in delivering a better user experience for the visitors.

Advertisement cookies are used to provide visitors with customized advertisements based on the pages you visited previously and to analyze the effectiveness of the ad campaigns.

“ผมว่าผมขาวมันเท่ดีออก” คุยกับ อาจารย์ช้าง ศักดิ์จิระ เวียงเก่า วัย 63 ปี ผู้ที่พูดได้เต็มปากว่าภูมิใจกับช่วงวัยเกษียณที่มีผมสีขาวทั้งหัวมากที่สุด

“ผมเลิกย้อมผมมากว่า 10 ปีแล้ว ผมว่าผมขาวมันเท่ดีออก”

“ผ่านมาเกือบ 10 ปีแล้ว ที่ผมปล่อยให้เส้นผมบนหัว ค่อยๆ เปลี่ยนสีไปตามธรรมชาติ ไม่ย้อม ไม่ปกปิด มีคำพูดจากคนรอบข้างมากมายคือ ‘ช่วงนี้แก่ขึ้นเยอะเลยนะ ผมขาวเริ่มเยอะแล้วนะรู้ไหม’ แรกๆ มันทำให้เราเสียความมั่นใจ แต่คำพูดของคนอื่นมันไม่สำคัญเท่าเรามีความคิดต่อตัวเองยังไง

“เราพยายามไปเป็นในแบบที่คนอื่นมองว่าสวย มองว่าดี จนเราสูญเสียความมั่นใจในตัวเองไป ท้ายที่สุดเรามาตั้งหลักได้ว่า… เราไม่มีความสุขกับการทำแบบนี้ อายุปูนนี้แล้วเราควรจะเป็นตัวเองในแบบที่เราชอบและมีความสุขดีกว่าไม่ใช่หรือ”

มนุษย์ต่างวัยพูดคุยกับ อาจารย์ช้าง ศักดิ์จิระ เวียงเก่า วัย 63 ปี ดีไซน์เนอร์เจ้าของแบรนด์ Baisri ผู้ที่พูดได้เต็มปากว่าภูมิใจกับช่วงวัยเกษียณที่มีผมสีขาวทั้งหัวมากที่สุด เพราะมันคือสิ่งที่ย้ำเตือนว่า ‘วันนี้เรารักตัวเองมากพอ’

เอาชนะความคิดลบกับตัวเอง

“เราเป็นคนที่มีผมหงอกขึ้นเร็วมาก เริ่มตั้งแต่อายุเข้าเลข 3 ต้องส่องกระจกทุกวันเพื่อดูว่าเส้นผมมันขาวแล้วหรือยัง และใช้ชีวิตวนเวียนกับการต้องย้อมผมทุกๆ 25 วัน มาตลอด 20 ปี แบบไม่เคยหยุด เพราะกลัวคนจะทักแล้วจะเสียความมั่นใจ อาจเพราะเราทำงานเกี่ยวกับการออกแบบ เจอคนมากมาย

“การที่เขาเห็นเรามีผมขาว ก็อาจจะมองดูว่าเราแก่ ดูไม่ดี ไม่ดูแลตัวเอง แน่นอนว่าความคิดเหล่านั้นมาจากคนอื่น และดันเป็นความเห็นที่ตัวเราเองให้ความสำคัญ

“ผมย้อมผมทุกเดือนจนอายุปาเข้าไป 50 กว่าปี กระทั่งได้มาเจอรุ่นพี่คนหนึ่ง เขามีเส้นผมขาวทั้งหัวและเป็นผมขาวที่สวย จนเราต้องเอ่ยถามแกไปว่า… พี่ไปทำผมร้านไหนมา สีเบอร์อะไร เขาหัวเราะและบอกผมว่า นี่หงอกล้วนๆ เลย

“ผมตกใจเลยผมหงอกมันดูดีได้จริงๆ เราเห็นกับตาตัวเองเลย และที่สำคัญพี่เขาก็ดูมีความสุข ไม่อายใคร มั่นใจในตัวเอง มันเลยทำให้เราหันกลับมามองตัวเองว่าแล้วเราอายอะไร ใฝ่หาความสมบูรณ์แบบไปเพื่ออะไร ในเมื่อเราต่างต้องเปลี่ยนแปลงไปเป็นเรื่องธรรมดา นับจากวันนั้นผมก็หมดเวรหมดกรรมกับยาย้อมผมตลอดไป” (หัวเราะ)

ผมหงอก เท่ากับ แก่… จริงหรือ?

“ผ่านมาเกือบ 10 ปีแล้ว ที่ผมปล่อยให้ผมขาวขึ้นทั่วทั้งหัว น่าตลกตรงที่ผมไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองแก่ลงเพราะสีผมเลย เรื่องพวกนี้คือความธรรมชาติ ธรรมดา ที่เป็นไปตามวัย เราจะฝืนธรรมชาติให้มันเหนื่อยเปล่าทำไม พอเข้าวัย 63 ปี สิ่งที่รับรู้เลยคือตราบใดที่เราสุขภาพดี เดินเหินคล่องแคล่ว ยังสามารถลุกขึ้นมาทำงานได้ทุกวัน จับอะไรก็กระฉับกระเฉงนั่นแหละคือความไม่แก่ไม่ใช่เรื่องของสีผม

“ผมหงอกขึ้นมันคือกระบวนการของการเติบโตที่ทุกคนต้องเจอ ทุกคนต้องได้พบไม่วันใดก็วันหนึ่ง แล้วเราจำเป็นต้องไปกลัวหรือกังวลอะไรกับมัน การที่เราเติบโตขึ้นในทุกๆ วันมันก็เป็นเรื่องที่ควรดีใจกับตัวเองไม่ใช่เหรอ วัยนี้เราข้ามผ่านอุปสรรคในชีวิตหนักๆ มาได้ จนมาถึงตรงนี้ ในวัย 63 ปี มันน่าจะเป็นเรื่องที่น่ายินดีนะ

“ผมขาวสำหรับผมมันเท่ดีต่างหาก”

‘อาจไม่สมบูรณ์แบบ แต่นั่นคือตัวตนของเรา’

“หนูชอบสีผมอาจารย์มากเลยค่ะ อาจารย์ดูเท่มาก มีเอกลักษณ์มาก (หัวเราะ) แปลกดีที่ทุกวันนี้มีแต่คนชอบสีผมนี้ ความไม่สมบูร์แบบที่เกิดขึ้นมันกลายเป็นตัวตนของเรา เป็นความแตกต่างที่ไม่มีใครเหมือน อาจไม่สมบูรณ์แบบนะแต่เราภูมิใจเพราะนั่นคือตัวตนของเรา

สีอะไรก็ได้ขอแค่เป็นสีของตัวเราเองก็พอ ถ้าเราคิดว่าสวยแล้วก็ไม่จำเป็นต้องย้อมอะไรปกปิด เราอิ่มเอมมีความสุขกับชีวิตที่เหลืออยู่ในทุกวันนี้เถอะ ผมว่ามีแค่ 2 อย่างในชีวิตที่ผมว่ามันสำคัญจริงๆ ซึ่งก็คือ วันนี้เรามีความสุขไหม และวันนี้เรามีสุขภาพแข็งแรงดีอยู่หรือเปล่า เพราะการรักตัวเองนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดแล้ว”

Credits

Author

ถึงจะต่างวัยแต่ก็
อยู่ร่วมกันอย่างเข้าใจ