“หนุ่มๆ สาวๆ อย่าเพิ่งหมดหวัง ขนาดลุงแก่แล้วยังเป็นนายแบบได้” ลุงองอาจ ทั่งธนทรัพย์ บอกลูกๆ หลานๆ และบรรดาคนรุ่นใหม่เอาไว้อย่างนั้น
แม้จะอายุปาเข้าไป 67 ปีแล้ว รวมทั้งเพิ่งก้าวเข้าสู่วงการได้เพียง 2-3 ปี แต่ลุงองอาจก็มีงานเข้ามาไม่ขาดสาย ไม่น่าเชื่อว่าจากในตอนแรกที่แค่ต้องการอยากจะมีรูปสวยๆ ของตัวเอง ไว้ส่งให้เพื่อนๆ ดูกันในไลน์จะกลายมาเป็นงานที่สร้างรายได้และความสุข ซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นมาได้ ส่วนหนึ่งก็เพราะฝีมือถ่ายภาพของ ธนัช ทั่งธนทรัพย์ ลูกชายวัย 21 ปี
“ป๊าเป็นคนชวนเราเอง เขาอยากมีรูปเอาไว้โชว์เพื่อน พอดีเรามีกล้องแล้วก็ชอบถ่ายรูปอยู่แล้ว ถ่ายเสร็จก็อัพลงลงเฟซ ต่อมาก็สร้างเพจ คนก็เข้ามาชมว่าเท่ดี จนมีพี่ที่รู้จักพาไปเดินแบบที่สยามเซ็นเตอร์ จากนั้นก็มีคนสนใจติดต่อเข้ามาเรื่อยๆ เป็นงานเดินแบบบ้าง งานโฆษณาแบรนด์สินค้าบ้าง เราก็รู้สึกดี แล้วเราก็ชอบด้วยที่พ่อของเรามีสไตล์ที่แตกต่างจากผู้สูงอายุคนอื่นทั่วๆ ไป”
ช่องว่างระหว่างวัยที่ห่างกันมากถึง 46 ปี ของมนุษย์ต่างวัยสองคนได้รับการเติมเต็มด้วยกิจกรรมที่ทั้งคู่ต่างชื่นชอบและต้องการ การถ่ายแบบจึงไม่ได้นำมาแค่เรื่องของความสุขและรายได้เท่านั้น หากแต่ยังนำมาซึ่งความผูกพัน และความเข้าใจใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
“สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ลุงมีชีวิตชีวาขึ้นเยอะมาก แล้วก็ทำให้ใกล้ชิดกับลูกชายมากขึ้น ทุกวันนี้มีความรู้สึกว่าเหมือนกับเราเป็นพี่น้อง เป็นเพื่อนกับเขามากกว่า”
ลุงองอาจสรุปถึงสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิต
“กิจกรรมของเราสองคนมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับเรื่องของอายุ แต่ขึ้นอยู่กับความต้องการของเรา ปกติเราก็มีกิจกรรมกับป๊าอยู่แล้ว เราก็ดูหนังด้วยกัน บางครั้งก็พากันไปโยนโบว์ลิ่ง แต่การถ่ายแบบก็ทำให้เราได้ใกล้ชิดกัน เข้าใจกันมากขึ้นไปอีก”
สิ่งที่นายแบบและช่างภาพต่างวัยทั้งสองบอกกล่าวเอาไว้แท้จริงแล้วอาจสรุปสั้นๆ ได้เพียง 2 ข้อ
- ข้อแรกค้นหาสิ่งที่ชอบและใช่
- ส่วนข้อสุดท้าย ทำมันกับคนที่คุณรัก
