‘กินดี’ ไม่ได้ดูแค่ช่วงวัย แต่ต้องใส่ใจให้เหมาะกับปัญหาสุขภาพที่แตกต่าง

ในวันที่สังคมสูงวัยไม่ใช่แค่เทรนด์ แต่คือสถานการณ์ที่ทุกคนกำลังพบเจออยู่ในปัจจุบัน และมีแนวโน้มที่จำนวนผู้สูงอายุจะยิ่งเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ในอนาคต แต่ในขณะที่อายุขัยยืนยาวขึ้นสุขภาพกลับย่ำแย่ลง ทำให้ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้อย่างเต็มที่ และต้องใช้ช่วงเวลา 20 ปีสุดท้ายไปอย่างไม่มีคุณภาพ

คนไทยมีแนวโน้มการเสียชีวิตด้วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง(NCDs) เพิ่มมากขึ้นประมาณ 400,000 รายต่อปี หรือมากกว่าวันละ 1,000 ราย คิดเป็นร้อยละ 74 ของสาเหตุในการเสียชีวิตทั้งหมดในประเทศจากการป่วยด้วย 4 โรคหลัก คือ โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคมะเร็ง โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง และโรคเบาหวาน

หากเราสังเกตความเปลี่ยนแปลงของผู้สูงอายุในบ้าน เราจะเห็นว่าพ่อแม่หรือญาติผู้ใหญ่ของเรามีสุขภาพร่างกายอ่อนแอลง และเจ็บป่วยได้ง่ายขึ้น ซึ่งปัญหาสุขภาพที่มักจะพบได้บ่อยในผู้สูงอายุมักเกิดจากการเสื่อมถอยของระบบภูมิคุ้มกัน ระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ ระบบเผาผลาญ รวมทั้งระบบขับถ่าย ดังนั้น ผู้สูงอายุและลูกหลานที่อยู่ใกล้ชิดจะต้องใส่ใจในการดูแลรักษาสุขภาพให้มากขึ้น ก่อนที่ปัญหาสุขภาพเล็ก ๆ น้อย ๆ จะลุกลามกลายเป็นโรคร้ายที่เป็นภัยต่อสุขภาพ

โปรตีนและโพรไบโอติกส์ คือ หัวใจของความแข็งแรง 

เพราะผู้สูงอายุต้องเผชิญกับปัญหาสุขภาพที่หลากหลายและแตกต่างกัน ในวันที่อายุมากขึ้นกล้ามเนื้อต่าง ๆ จะเริ่มสลาย ทำให้ผู้สูงอายุเสี่ยงต่อการพลัดตกหกล้ม ทั้งยังอาจเกิดภาวะกระดูกบาง หากเกิดการล้มก็มักจะทำให้กระดูกแตกหักได้ง่าย และอาจไม่สามารถกลับมาเดินได้อีก ดังนั้น การใส่ใจดูแลเรื่องระบบกระดูกกล้ามเนื้อจึงสำคัญเป็นอย่างมาก และสารอาหารสำคัญที่จะช่วยในการเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อก็คือ ‘โปรตีน’

โดยปกติผู้สูงอายุควรได้รับโปรตีน 1 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมต่อวัน แต่ในกรณีที่ร่างกายเกิดความเครียดจากการได้รับบาดเจ็บ การติดเชื้อ การผ่าตัด หรือการเจ็บป่วย จะต้องได้รับโปรตีนเพิ่มขึ้น เพราะโปรตีนจะช่วยซ่อมแซมระบบต่าง ๆ ในร่างกาย รวมทั้งฟื้นฟูสุขภาพให้กลับมาแข็งแรงและเป็นปกติได้เร็วขึ้น

หากได้รับโปรตีนอย่างเพียงพอ ผู้สูงอายุจะมีพลังมากขึ้น รู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่า โปรตีนยังมีส่วนช่วยในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้สูงอายุให้คงที่ ทำให้ไม่รู้สึกหิวง่าย ป้องกันไม่ให้เกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ชนิดต่าง ๆ และหากผู้สูงอายุออกกำลังกายด้วยก็จะยิ่งช่วยให้ระบบกระดูกและกล้ามเนื้อนั้นแข็งแรงมากขึ้นด้วย

นอกจากระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ อีกระบบที่สำคัญมาก ๆ ก็คือ ระบบภูมิคุ้มกัน ซึ่งถือเป็นหน้าด่านในการป้องกันสิ่งไม่ดีต่าง ๆ ที่จะเข้ามาทำลายสุขภาพ หรือทำให้เกิดโรคต่าง ๆ ได้ การเสริมสร้างระบบภุมิคุ้มกันให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้นจะต้องหมั่นเติมโพรไบโอติกส์ให้แก่ร่างกายอย่างสม่ำเสมอด้วย

เป็นเบาหวานอย่าเบาใจ ต้องหมั่นดูแลระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่

เมื่อพูดถึงโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ‘โรคเบาหวาน’ มักจะเป็นเพชฌฆาตอันดับต้น ๆ ในการคร่าชีวิตของผู้คนทั่วโลกเสมอ และยิ่งอายุมากขึ้นเท่าไรก็ยิ่งมีความเสี่ยงป่วยด้วยโรคเบาหวานเพิ่มขึ้นเท่านั้น พบว่า คนอายุ 65 ปีขึ้นไปจะมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวานมากกว่าคนอายุ 25 ปี เพิ่มขึ้น 2-3 เท่า เพราะเมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายก็จะยิ่งมีสัดส่วนของไขมันมากกว่ากล้ามเนื้อ ทำให้การหลั่งฮอร์โมนอินซูลิน และการตอบสนองต่อฮอร์โมนอินซูลินลดลงไปด้วย ทำให้เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานมากขึ้น

สำหรับโรคเบาหวานที่พบมากที่สุดในประเทศไทยนั้น 98% เกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตหรือเรียกติดปากว่าโรคเบาหวานชนิดที่ 2  ซึ่งสามารถป้องกันได้ ส่วนที่เหลืออีก 2% เป็นโรคเบาหวานที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม

ส่วนใหญ่คนเรามักเข้าใจผิดว่าคนที่เป็นโรคเบาหวาน ควรจะกินอาหารทีละน้อย ๆ แต่บ่อยครั้ง หรือประมาณ 5-6 มื้อย่อยต่อวัน แต่ในความจริงแล้วการกินอาหาร 3 มื้อ โดยเน้นอาหารเช้า อาหารเที่ยงเป็นมื้อหลัก และกินมื้อเย็นให้น้อยลง จะช่วยควบคุมระดับน้ำตาลได้ดีกว่า นอกจากนี้ยังมีผลดีต่อการลดน้ำหนัก และทำให้ไขมันในตับลดลงด้วย

หากป่วยเป็นโรคเบาหวาน ยิ่งต้องใส่ใจดูแลสุขภาพให้มากขึ้น ด้วยการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ เลือกกินคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนที่มีน้ำตาลต่ำ เพื่อชะลอการเสื่อมของอวัยวะต่าง ๆ และช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายต่าง ๆ ตามมาได้

อย่าสะสมของเสียไว้ในร่างกาย ด้วยการปล่อยให้ท้องผูก

อีกหนึ่งปัญหาที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการกินที่มักพบบ่อยในผู้สูงอายุ คือ ปัญหาท้องผูก เนื่องจากพออายุมากขึ้นระบบเผาผลาญก็มักจะทำงานได้น้อยลง ทำให้ผู้สูงอายุกินอาหารได้น้อยลง หรือไม่ก็กินอาหารได้ไม่ครบถ้วนตามหลักโภชนการ เพราะกินอาหารที่มีกากใยไม่เพียงพอ ดื่มน้ำน้อย และไม่ค่อยได้เคลื่อนไหวร่างกาย เพราะความเเข็งแรงที่ลดลงของกล้ามเนื้อ ทำให้เกิดอาการท้องผูกได้ง่ายขึ้น

โดยปกติผู้สูงอายุควรได้รับใยอาหารประมาณวันละ 20 – 35 กรัม แต่สำหรับคนที่มีปัญหาท้องผูกควรได้รับใยอาหารเพิ่มขึ้นเป็นวันละ 25 – 60 กรัม การรับประทานอาหารที่มีใยอาหารสูงจะช่วยเพิ่มกากและน้ำหนักในอุจจาระ รวมทั้งกากใยยังช่วยอุ้มน้ำ ทำให้อุจจาระอ่อนและเคลื่อนตัวได้ง่าย ช่วยให้การขับถ่ายสะดวกขึ้น นอกจากนี้ ควรดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสมอย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว ออกกำลังกายเบา ๆ ทำจิตใจให้แจ่มใส และฝึกขับถ่ายให้เป็นเวลาทุกวัน

ปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ให้เฮลท์ตี้เริ่มที่การกิน

การดูแลสุขภาพจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากสำหรับผู้สูงอายุ ซึ่งจะต้องใส่ใจดูแลให้ครบทั้ง 6 ด้านตามหลักเวชศาสตร์วิถีชีวิต (Lifestyle Medicine) หรือเสาหลักของการมีสุขภาพดีทั้งกายและใจ 6 ด้าน ประกอบด้วย

1. ลดความเครียด

2. พักผ่อนให้เพียงพอ

3. มีกิจกรรมทางกายอย่างสม่ำเสมอ

4. ไม่ดื่มเหล้าและไม่สูบบุหรี่

5. มีสังคมและความสัมพันธ์ที่ดี

6. กินอาหารให้ถูกหลักโภชนาการ ได้สารอาหารครบถ้วนทั้ง 5 หมู่

ซึ่งหากสามารถรักษาทั้ง 6 เสาหลักสุขภาพให้แข็งแรงได้ ก็จะช่วยลดอัตราการเสียชีวิตจากการเจ็บป่วยได้มากถึง 73 % ซึ่งการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพที่เริ่มได้ง่ายที่สุดก็คือ ‘การกิน’ เลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ และให้สารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายได้อย่างครบถ้วน เพื่อให้ระบบต่าง ๆ ของร่างกายทำงานได้ตามปกติ และชะลอความเสื่อมที่จะเกิดขึ้นตามช่วงวัย

แต่เพราะเรารู้ดีว่า ‘การกินดี’ นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะสำหรับผู้สูงอายุที่ระบบต่าง ๆ ในร่างกายเริ่มเสื่อมถอยลง ทำให้ไม่สามารถที่จะกินอาหารได้ตามปกติเหมือนวัยหนุ่มสาว อาจทำให้ผู้สูงอายุขาดสารอาหารได้ ตอบโจทย์ปัญหาสุขภาพที่แตกต่างกันของผู้สูงอายุ ใส่ใจเรื่องโภชนาการได้อย่างตรงจุด ด้วยอาหารทางการแพทย์ที่เป็นสูตรครบถ้วน ที่จะช่วยให้การกินดีของผู้สูงอายุง่ายขึ้น

เนสท์เล่ บูสท์ เข้าใจในปัญหาสุขภาพของผู้สูงอายุที่ต่างกัน เสริมทุกวันด้วยอาหารสูตรครบถ้วนจากเนสท์เล่ เฮลท์ ไซเอนซ์ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการด้านโภชนาการที่หลากหลายของผู้สูงวัยได้อย่างตรงจุดด้วย 3 สูตรที่เหมาะกับสุขภาพของผู้สูงอายุและผู้ที่ต้องการเสริมโภชนาการให้แก่ร่างกายได้อย่างครบถ้วน

1. เนสท์เล่ เฮลท์ ไซเอนซ์ บูสท์ ออปติมัม เป็นอาหารสูตรครบถ้วน มีสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย มีโปรตีนเวย์ จุลินทรีย์โพรไบโอติก ไขมัน MUFA ใยอาหาร รวมทั้งวิตามินและแร่ธาตุที่หลากหลาย ช่วยเสริมสร้างสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง เป็นสูตรที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเสริมโภชนาการให้เพียงพอ เช่น ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการขาดสารอาหาร ผู้ป่วยหรือผู้ที่อยู่ในระยะพักฟื้น หรือผู้ที่มีอาการเบื่ออาหาร

2. เนสท์เล่ เฮลท์ ไซเอนซ์ บูสท์ กลูโคส คอนโทรล อาหารสูตรครบถ้วนที่พัฒนาให้เหมาะสมกับผู้ที่ต้องการเสริมโภชนาการให้เพียงพอ แต่ต้องการคุมระดับน้ำตาลในเลือด มี 4 ส่วนผสมสูตรเฉพาะจากเนสท์เล่ ช่วยควบคุมน้ำตาลให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ประกอบด้วย โปรตีนเวย์ โปรตีนคุณภาพดี ช่วยเสริมสร้างและคงสภาพมวลกล้ามเนื้อ ดัชนีน้ำตาลต่ำ ไอโซมอลทูโลส ช่วยชะลอการย่อยคาร์โบไฮเดรต

ใยอาหารสูง มีไฟเบอร์ ช่วยปรับสมดุลลำไส้ และมีไขมัน MUFA ไขมันดี นอกจากนี้ ยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีแลคโตส (Lactose Free) ผู้ที่แพ้แลคโตสสามารถรับประทานได้ตามปกติ เป็นสูตรที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และผู้ที่เป็นเบาหวาน

3. เนสท์เล่ เฮลท์ ไซเอนซ์ บูสท์ ไฟเบอร์ อาหารสูตรครบถ้วนที่มีปริมาณสารอาหารเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ผสมใยอาหาร 5 ชนิด ช่วยปรับสมดุลลำไส้ กระตุ้นระบบขับถ่ายให้เป็นปกติ และมีสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายอีกหลายชนิด ประกอบด้วย เวย์โปรตีน โปรตีนคุณภาพดี ที่มีส่วนช่วยเสริมสร้างและคงสภาพของมวลกล้ามเนื้อ ไขมัน MUFA  ไขมันดีที่มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจ แคลเซียม มีส่วนช่วยในกระบวนการสร้างกระดูกและฟันที่แข็งแรง วิตามินบี 12 มีส่วนช่วยในการทำงานตามปกติของระบบประสาทและสมอง วิตามินอี มีส่วนช่วยในกระบวนการต่อต้านอนุมูลอิสระ พร้อมสารอาหารครบถ้วนเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเสริมโภชนาการ และผู้ที่มีปัญหาเรื่องการขับถ่าย

ติดตามข้อมูลผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่

เนสท์เล่ เฮลท์ ไซเอนซ์ บูสท์ | Nestle Health Science

Boost Optimum: https://www.nestlehealthscience-th.com/brands/Boost/boost-optimum

Boost Glucose Control: https://www.nestlehealthscience-th.com/brands/Boost/boost-glucose-control

Boost Fiber: https://www.nestlehealthscience-th.com/brands/nutren/nutren-fibre

อ้างอิง 

  • สรุปสถานการณ์ โรคไม่ติดต่อ พ.ศ. 2565 สมาคมเครือข่ายโรคไม่ติดต่อไทย

https://www.thaincd.org/health-media/e-book/13

  • วารสารเบาหวานปีที่ 56 เล่ม 1 (ปี 2567) สมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทย

https://www.dmthai.org/new/index.php/sara-khwam-ru/sahrab-bukhkhl-thawpi/diabetes-ebook/2567-56-1

https://www.hfocus.org/content/2014/11/8632

Credits

Author

ถึงจะต่างวัยแต่ก็
อยู่ร่วมกันอย่างเข้าใจ