ความหยาบคายมันทำให้ดูเก่ง ดูเพอร์เฟคขึ้นไหม นั่นคือหน้าที่ครูที่ต้องช่วยตั้งคำถาม ดึงเด็กกลับมาไม่ให้เขาเตลิด

“เราคือครู (60 ปี) ที่รับหน้าที่เป็นแม่ของลูกอายุ 23 ตอนนี้ลูกเราแสดงจุดยืนทางการเมืองชัดเจนว่าเขาอยากเรียกร้องประชาธิปไตย สิ่งที่เราต้องทำตอนนี้คือเป็นผู้ใหญ่จริงๆ ที่ไม่ใช่ผู้ใหญ่กะโหลกกะลา และใช้ความเป็นครูนี่แหละมาปรับใช้เพื่อเตือนเขา ไม่ให้เขาเตลิด”

“ครุ แปลว่า หนัก เพราะฉะนั้นสิ่งที่ต้องแบกให้ได้คืออย่าใช้อารมณ์เหนือเหตุผล อาชีพครูพบเจอความเห็นต่างมาตลอด หน้าที่ของเราคือตั้งคำถามหาเหตุและผลให้กับเด็ก อย่างเช่น ความหยาบคาย มันทำให้เราดูเก่ง ดูเพอร์เฟคขึ้นไหม นั่นคือหน้าที่ครู ที่ต้องช่วยดึงเด็กกลับมาไม่ให้เขาเตลิด ชี้เหตุและผลที่ตามมา เหตุที่เกิดขึ้น เกิดขึ้นจากอะไร”

“สมัยนี้ไม่ใช่สมัยก่อนที่ครูคือบุคคลที่เด็กๆ ต้องกราบไหว้ เราพูดยังไงเขาต้องเชื่อ บอกว่าไปทางไหน เขาจะไปทางนั้น พ่อแม่ก็เช่นเดียวกัน สมัยนี้เด็กสามารถหาความรู้ที่น่าเชื่อถือได้จากที่อื่นมากมาย เพียงแต่เราต้องเป็นผู้แนะนำ ตะล่อมไม่ให้เขาเตลิดออกนอกกรอบ ดึงเขากลับเข้ามา ด้วยเหตุและผลที่นุ่มนวล ชี้อธิบายว่าข้อมูลที่ได้มามีที่มาจากไหน เชื่อถือได้เพียงใด เราจะไม่ไปตัดสินเด็กว่าคิดผิด ว่าเขาโง่ เขาไม่ได้ผิดเขากำลังเกิดกระบวนการเรียนรู้ แต่อะไรที่มันมากเกินไป ก็ควรชี้ให้เขามองและให้เขาคิดต่อยอดให้ได้”

“เมื่อเรามีเป้าหมายเดียวกัน แค่วิธีคิดเท่านั้นที่ต่าง เราต้องดึงความแตกต่างให้กลับมารวมกันให้ได้ ช่วยเหลือกัน ร่วมมือกัน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน ครูควรจะช่วยตั้งคำถามและเคารพความคิดเห็นเขา ด้วยหลักประชาธิปไตย ไม่เอนเอียงข้างใดข้างนึง”

“เราตัดนักเรียนที่เห็นต่าง หรือลูกที่เห็นต่างไม่ได้ แต่เราก็ไม่สร้างความรุนแรง หรือสร้างสถานการณ์ว่าสิ่งที่เขาคิดมันผิด มันน่ารังเกียจ เราไม่ตอบโต้ด้วยคำพูดที่รุนแรง เพราะความรุนแรงไม่ว่าจะด้วยทางใด ไม่เคยสร้างอะไรที่ดี”

ครูระดับมัธยมศึกษา อายุ 60 ปี

มนุษย์ต่างวัยชวนคุยกับคนหลากหลาย ถึงมุมมองการอยู่ร่วมกันท่ามกลางความขัดแย้งทางการเมือง

Credits

Authors

ถึงจะต่างวัยแต่ก็
อยู่ร่วมกันอย่างเข้าใจ