“เราเป็นหนึ่งคนที่แสดงจุดยืนเรื่องการเมืองชัดเจน ในวันที่เราตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะออกไปม็อบเราเลือกที่จะรักษาความสัมพันธ์กับยายด้วยการไม่โพสต์ข้อความอะไรลงในเฟซบุ๊ก ไม่ทำอะไรให้เขารู้สึกเป็นห่วง”
“เราอายุ 27 ปี ส่วนยายอายุ 76 ปี เราสองคนสนิทกันมาก ในชีวิตจริงยายเป็นทั้งแม่และเพื่อนที่สามารถคุยกับเราได้ทุกเรื่อง ตั้งแต่ปัญหาส่วนตัว ไปจนถึงข่าวสารบ้านเมือง ขณะเดียวกัน บนโลกออนไลน์ยายก็เป็นเพื่อนที่คอยติดตามความเคลื่อนไหวของเรา พอเขาเห็นว่าเราเริ่มโพสต์เฟซบุ๊กเกี่ยวกับการเมือง การแสดงจุดยืน และการออกไปม็อบ เขาก็จะคอยโทรมาด้วยความเป็นห่วง โทรมาพูดดักคอว่า ไม่อยากให้เราออกไปม็อบ กลัวว่ามันจะอันตราย เราเข้าใจความรู้สึกของยายมากๆ แต่เราก็เคารพการตัดสินใจของตัวเองเหมือนกัน และเรารู้สึกว่าจริงๆ แล้วมันไม่มีอะไรที่น่ากลัวเลยถ้าเราจะไปเข้าร่วม เพราะมันคือการแสดงจุดยืนของตัวเราเอง”
“สุดท้ายเราก็ตัดสินใจไปม็อบอย่างไม่ลังเล และเลือกที่จะไม่บอกใคร ไม่บอกยาย ไม่โพสต์อะไรลงในโซเชียล เพราะเราไม่ได้อยากอันเฟรนด์ใครออกไปจากพื้นที่ของเรา ถึงแม้ว่าเขาจะไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เราทำ โดยเฉพาะคนในครอบครัว เพราะยังไงเราก็ไม่สามารถอันเฟรนด์เขาในโลกของความเป็นจริงได้ แต่สิ่งที่เราทำได้คือ เราเลือกที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดความขัดแย้งได้”
“หลังยุติการชุมนุมเราก็กลับบ้านอย่างปลอดภัย ความสัมพันธ์ของเรากับยายก็ต้องเดินไปข้างหน้า เราไม่ได้เก็บเรื่องที่เขาห้ามไม่ให้ไปม็อบมาเป็นอคติในใจ เรายังคุยเรื่องการเมืองกันได้ในมุมอื่นๆ ที่ไม่ทำให้เกิดความขัดแย้ง เพราะสำหรับเรายังไงยายก็คือเซฟโซน”
พนักงานออฟฟิศ อายุ 27 ปี
มนุษย์ต่างวัยชวนคุยกับคนหลากหลาย ถึงมุมมองการอยู่ร่วมกันท่ามกลางความขัดแย้งทางการเมือง