“เมื่อต้องกลับมาอยู่ที่บ้านกับคนหลายวัย เราพูดกันไม่เข้าใจเลย”
“ทำงานกับเด็กรุ่นใหม่ เราปรับตัวไม่ทันกับความคิดของเขา”
“อยากใกล้ชิดกับลูกมากกว่านี้ อยากรู้ในสิ่งที่เขาคิด”
ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นสิ่งที่คนต่างเจเนอเรชันกำลังประสบและกำลังหาทางคลี่คลาย เวิร์กชอป “เราต่างเหมือนกัน” จึงเป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่ “มนุษย์ต่างวัย” ตั้งใจที่จะทำให้คนต่างเจนได้มาเรียนรู้กันและกันมากขึ้น เพื่อนำไปสู่การอยู่ร่วมกันอย่างเคารพและเข้าใจกัน
เวิร์กชอป “เราต่างเหมือนกัน” ครั้งนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 4 โดยมีผู้เข้าร่วมจำนวนเกือบ 30 คน ครอบคลุมทั้ง 4 เจเนอเรชัน ตั้งแต่เจนซี , วาย , เอ็กซ์ และ เบบีบูม เพื่อมาร่วมกันค้นหาคำตอบว่า อะไรที่ทำให้คนต่างวัยคิด “ต่างกัน” หรือจริงๆ แล้ว เรากับเขาอาจจะมีบางอย่างเหมือนกัน นี่คือบางส่วนของความรู้สึกจากผู้เข้าร่วม
ทรงศักดิ์ ไตรรัตน์รังษี อายุ 70 ปี
|ลูกเป็นคนสมัครให้ผมมาร่วมกิจกรรมครั้งนี้
“ลูกของผมชวนให้ผมลองมาสมัครดูเพราะมันอาจจะดีกับตัวผม ตอนแรกผมก็ไม่อยากมาเลย เพราะคิดว่าเราแก่แล้วไม่อยากไปทำอะไรแล้ว แต่ก็มานั่งทบทวนว่าลูกเขาน่าจะมีเจตนาดีกับเรา หวังดีกับเรา แล้วเราก็มั่นใจว่าลูกจะต้องนำเสนอสิ่งที่ดีๆ ให้เราแน่นอน จึงยอมมาเข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้
“ผมชอบกิจกรรมในงานที่ทุกคนนำประสบการณ์ส่วนตัวของตัวเองมาแบ่งปันกัน ผมก็ได้รับรู้เรื่องราวของคนต่างวัยว่าเขาเกิดเรื่องราวอะไรในชีวิต แล้วเราก็อาจจะให้คำแนะนำบางอย่างกับเขาได้ในฐานะที่เรามีประสบการณ์มากกว่า
“สิ่งที่ผมได้รับหลังจากเข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้คือ ผมยอมรับสภาพการเปลี่ยนแปลงของโลก ของยุคสมัย ผมจะไม่เป็นคนแก่ที่เอาแต่ใจตัวเอง ไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลง เมื่อก่อนเราเป็นผู้นำครอบครัว เดี๋ยวนี้เราลดตำแหน่งลงให้ลูกกลายเป็นผู้นำแทน สลับหน้าที่กัน ผมไม่อยากไปเอาชนะเขา เพราะเขาโตแล้วความรู้เขาเยอะกว่าเรา เราก็ต้องยอมรับสภาพว่าเดี๋ยวนี้ความรู้ ความสามารถเราน้อยกว่า กาลเวลามันเปลี่ยนไปแล้ว ผมรู้สึกว่าโชคดีมากที่ลูกเลือกให้ผมมาร่วมกิจกรรมดีๆ แบบนี้”
เปรมาพร พูลเพิ่ม อายุ 18 ปี
น้องเทสนิส ตัวแทนของเจนซี ผู้เข้าร่วมกิจกรรมที่อายุน้อยที่สุดเล่าความรู้สึกให้ฟังว่า “ตอนแรกไม่สนใจเรื่องคนต่างวัยเลยค่ะ แต่ที่บ้านหนูอยู่กับคนหลายๆ วัยก็เลยคิดว่าถ้าเราเข้าใจเขามากขึ้นก็น่าจะเป็นอะไรที่ดีมาก ส่วนใหญ่เราจะมีปัญหากับคนที่บ้านเรื่องความคิดเห็น เราคิดไม่ตรงกันแล้วเราก็จะเถียงกัน แต่พอมาทีนี่ แล้วเราได้ลองเปิดใจทำกิจกรรมต่างๆ เราก็ได้เห็นมุมมองใหม่ๆ ของพี่ๆ ที่ต่างวัยกับเรา ทำให้เรามองผู้ใหญ่ในแง่ดีมากขึ้น ก็เริ่มเข้าใจมากขึ้นว่าทำไมเขาถึงเตือนเรา ทำไมเขาถึงเป็นห่วงเรา ทำไมเขามองเราเป็นเด็ก เพราะเขาเคยเจอเรื่องราวมาเยอะ เราผ่านอะไรมาน้อยมากถ้าเทียบกับพี่ๆ เขา เราถึงเริ่มเข้าใจแล้วว่าที่เขาบอกว่าผู้ใหญ่หวังดีกับเรามันคืออะไร”
“พอเราได้คุยกันรับฟังคนต่างวัยมากขึ้น ในเวิร์กชอปมีการสอนให้เราตั้งใจฟังว่าเขาต้องการอะไร ให้เราดูให้ออก หนูคิดว่ากิจกรรมนี้สามารถนำมาปรับใช้กับที่บ้านของเราได้ ถ้าเรากลับไปที่บ้านเราน่าจะรับฟังเขามากขึ้นและจะเล่าให้เขาฟังมากขึ้นค่ะ
“ในชีวิตเรามีโอกาสไม่บ่อยนักที่จะได้พบกับคนที่ต่างวัยกันมากๆ ขนาดนี้ แล้วทุกคนพร้อมที่จะแบ่งปันประสบการณ์ แบ่งปันสิ่งที่เขาเจอมาให้เด็กอายุ 18 ปีได้ฟัง นับเป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่ามากๆ ที่เราเลือกมาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้”
วริศรา กลีบบัว อายุ 35 ปี
“เราเป็นคนทำงานกับเด็กรุ่นใหม่เยอะ บางเรื่องเราก็ไม่เข้าใจน้องๆ ไม่เข้าใจปัญหาที่น้องๆ เจอมาก่อน อยากทำความเข้าใจ ให้ช่องว่างระหว่างวัยของตัวเองกับน้องๆ มีน้อยลงจึงตัดสินใจมาร่วมกิจกรรมนี้เพราะเราอยากเข้าใจน้องๆ มากขึ้น
“จากที่เคยคิดว่าชีวิตของเด็กรุ่นใหม่มันต้องง่ายกว่าเรามากๆ แต่พอเราได้ลองเข้าไปทำกิจกรรมกับน้องๆ จริงปรากฏว่ามันไม่ง่ายเลยสำหรับเขา เด็กวัยนี้ต้องต่อสู้กับความกดดันทางสังคมมากกว่าคนในวัยเราเสียด้วยซ้ำ เพราะโลกมันเปลี่ยนไปทุกๆ วัน
“พอน้องๆ เล่าประสบการณ์ของเขาให้เราฟัง เราเคยคิดว่าเราเข้าใจชีวิตระดับหนึ่ง แต่พอไปคุยกับน้องๆ ก็ได้เห็นว่าทุกคนพยายามมากๆ กลายเป็นว่าที่เราคิดว่าเด็กเจนซีจะสบายกว่าเรา เพราะมีอุปกรณ์ เครื่องมืออำนวยความสะดวกเยอะแยะ กลับกลายเป็นว่าเขายิ่งกดดันมากขึ้นกว่าเราเสียอีก
“ต้องขอบคุณกิจกรรม “เราต่างเหมือนกัน” ที่ทำให้เราได้เจอคนหลายๆวัย เพื่อให้เรารู้ว่าจริงๆ แล้วเรากับเขาไม่ได้แตกต่างกันเลย เราต้องการสิ่งเดียวกันแต่เราแค่แสดงออกต่างกันแค่นั้นเอง”
กฤศ พัฒนสิงห์ อายุ 47 ปี
ตัวแทนของเจนเอ็กซ์ และเป็นผู้เข้าร่วมกิจกรรมที่เดินทางมาไกลที่สุดในครั้งนี้ คือจังหวัดสุราษฎร์ธานี เล่าว่า “ผมติดตามเพจมนุษย์ต่างวัยมานาน แล้วรู้สึกว่าเนื้อหาของเพจมีความน่าสนใจเกี่ยวกับเรื่องของคนต่างวัย เราจึงอยากมาหาประสบการณ์ มาเปิดโลกปรับเปลี่ยนมุมมองใหม่เกี่ยวกับคนที่อายุแตกต่างกับเราเพราะว่าบางทีต่างวัยกันแต่อยู่บ้านเดียวกันยังคุยกันไม่รู้เรื่องเลย ผมคิดว่าถ้ามาที่นี่แล้วมันอาจจะมีคำตอบอะไรที่ทำให้เข้าใจขึ้นมาก็ได้
“เมื่อเข้ามาร่วมกิจกรรมกับเราต่างเหมือนกัน ทำให้ได้เรียนรู้เรื่องราวใหม่ๆ จากคนต่างวัยทั้งคนที่อายุน้อยกว่าเราว่า ยุคสมัยนี้มันมีเรื่องราวเปลี่ยนไปจากยุคของเรามาก และคนที่มีประสบการณ์มากกว่าเราหลายปีว่าเขาผ่านอะไรมาบ้างทำไมถึงมีความคิด ความเชื่อแบบนี้ น้อยนะที่จะมีประสบการณ์ดีๆ แบบนี้
“พอได้สัมผัส ได้เรียนรู้เรื่อความแตกต่างหลากหลายของคนแต่ละเจเนอเรชัน เราคิดว่าเราสามารถหาตรงกลาง ความพอดีระหว่างกันได้ เราไม่ต้องพยายามเข้าใจเขาทั้งหมด เอาแค่เขาโอเค แล้วเราโอเครับได้ก็พอแล้ว
“ขอบคุณกิจกรรมดีๆ แบบนี้ ผมเดินทางไกลมาจากสุราษฎร์ธานี เพื่อเป้าหมายเดียวคือมาร่วมกิจกรรมครั้งนี้ และมันก็ได้อะไรกลับไปใช้ในชีวิตเยอะเลย”