“การเตรียมตัวทำพินัยกรรมไม่ใช่เรื่องของคนมีเงินเยอะ คนรวย ไม่ว่าจะเป็นพินัยกรรมเรื่องมรดก หรือพินัยกรรมชีวิต ถือเป็นการวางแผนชีวิตล่วงหน้า เช่นเดียวกับการวางแผนการงาน การเงิน หรือครอบครัว เพื่อให้ชีวิตเป็นไปอย่างที่ต้องการ ป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอย่างรอบคอบที่สุด”
บุพการีที่เคารพ พูดคุยกับ “ศ. กิติพงศ์ อุรพีพัฒนพงศ์” ประธานกรรมการบริษัท ชีวามิตร วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด ถึงข้อดีของการเตรียมตัวทำพินัยกรรมล่วงหน้า
“ตั้งแต่เกิดเรามุ่งวางแผนชีวิตแต่ละช่วง ไม่ว่าการทำงาน การเงิน สุขภาพ ไปจนถึงการสร้างครอบครัวที่ดี แต่พอเริ่มแก่ตัวลงกลับไม่อยากวางแผนชีวิตกัน ยิ่งเรื่องการทำพินัยกรรมหลายครอบครัวไม่สามารถคุยได้ แค่เกริ่นเท่ากับบ้านระเบิด ชวนคุยหาว่าแช่ง ไม่อยากทำเพราะกลัวยุ่งยากยังไม่ถึงเวลา หรือเพราะคิดว่าเป็นเรื่องของพ่อแม่ หรือผู้สูงวัยเท่านั้น แต่จริง ๆ แล้วการทำพินัยกรรมเป็นเรื่องของทุกคนไม่ว่าจะวัยไหน เป็นเตรียมตัวชีวิตช่วงสุดท้ายอย่างรอบคอบ ลดความวุ่นวายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ที่อาจส่งผลต่อความขัดแย้งที่อาจต้องจบที่ศาล หรือการเสียค่าใช้จ่ายมหาศาลเพื่อยื้อชีวิตอย่างไม่จำเป็น”
4 ข้อดีของการเตรียมตัวทำพินัยกรรมมรดก และพินัยกรรมชีวิตล่วงหน้า
1. เป็นการสำรวจเพื่อทำเช็กลิสต์ทรัพย์สิน การทำพินัยกรรมถือเป็นการกลับมาสำรวจตัวเองว่าเรามีทรัพย์สินอะไรบ้าง มูลค่าเท่าไร เอกสารอยู่ที่ไหน อยู่กับใคร ที่ดินมีการครอบครองแบบปรปักษ์ที่เราไม่รู้ ตกหล่นไปที่อาจเกิดปัญหาในอนาคตหรือไม่ ฉะนั้นการทำพินัยกรรมถือเป็นการกลับมาสำรวจตรวจสอบทรัพย์สินที่เรามี รวบรวมไว้ไม่ให้ตกหล่น ลดการเกิดความวุ่นวายในการตรวจสอบทรัพย์สินในอนาคต
2. เป็นการวางแผนตัดสินใจว่าทรัพย์สินที่มี ควรแบ่งให้ใคร ใครควรเป็นคนดูแลถึงจะมีประโยชน์สูงสุด และจะยกให้เมื่อไรแบ่งให้ตอนยังมีชีวิต หรือแบ่งให้หลังจากเสียชีวิตจึงจะเหมาะสมที่สุด หรือหากไม่มีลูก ๆ หรือผู้ที่จะยกให้ จะจัดการกับทรัพย์สินที่มีอย่างไรหลังจากเสียชีวิตไปแล้ว
3. เป็นการลดความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นในครอบครัวหรือผู้ได้รับมรดก เมื่อเจ้าของทรัพย์สินไม่ได้ตัดสินใจไว้ว่าจะยกให้ใคร เกิดปัญหาการแบ่งทัพย์สินไม่เป็นธรรมแม้เป็นทรัพย์สินเล็กน้อยก็สร้างความวุ่นวายในการตรวจสอบและแบ่งได้ อาจทำให้ต้องจบโดยการให้ศาลมาตัดสิน เสียค่าใช้จ่ายโดยไม่จำเป็น ในภาพกว้างทำให้ทีคดีล้นศาล แต่หากเจ้าของยังมีสติครบถ้วน แบ่งทรัพย์สินอย่างรอบคอบเหมาะสมแล้ว ก็ถือเป็นการลดขั้นตอนความวุ่นวายนี้ลงได้อย่างง่ายดาย
4. การทำพินัยกรรมชีวิต (Living Will) หรืออาจรู้จักในชื่อหนังสือปฏิเสธการรักษา เป็นการเตรียมตัวชีวิตช่วงสุดท้ายล่วงหน้า เผื่อวันที่เราไม่สามารถตัดสินใจเรื่องการรักษาได้ด้วยตนเองแล้ว เรามีสิทธิในการเลือกว่าอยากยื้อชีวิตแบบไหน มากแค่ไหนถึงเพียงพอที่เราต้องการ ลดความยุ่งยากในการตัดสินใจยื้อชีวิตที่ลูก ๆ หรือแพทย์อาจตัดสินใจลำบาก ลดขั้นตอนการยื้อชีวิตที่ตนเองไม่ต้องการ ลดการจ่ายค่ารักษาเกินความจำเป็น และเป็นการเลือกการจากไปอย่างสงบอย่างที่เราต้องการจริง ๆ
“เรื่องการทำพินัยกรรมไม่ว่าเรื่องมรดก หรือพินัยกรรมชีวิต เป็นเรื่องที่ต้องคุยและคิดให้รอบคอบตลอดสายทั้งพ่อแม่และลูก ๆ เพราะชีวิตนั้นไม่แน่นอนคนที่อายุเยอะอาจมีชีวิตที่ยืนยาวกว่าลูก ๆ ก็เป็นได้ ฉะนั้นเพื่อลดปัญหาความขัดแย้ง ความยุ่งยากที่จะตามมาของคนที่อยู่ต่อ การเริ่มต้นคุยเรื่องพินัยกรรมจึงเป็นเรื่องที่สำคัญและจำเป็นมากในครอบครัว และแน่นอนไม่ใช่เรื่องอัปมงคลหรือยุ่งยากในการคุยหรือลงมือทำ สามารถหาข้อมูลได้มากมายตามเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือ และเริ่มต้นทำได้ทันที”
ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมการวางแผนทำพินัยกรรมชีวิต ได้ที่เว็บไซต์ : ชีวามิตร Cheevamitr Social Enterprise
