คุณคิดว่าความสุขของคนวัยเกษียณคืออะไร ?
หลายคนอาจจะตอบว่า “สุขภาพดี มีเงินใช้ ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ” จริงอยู่สิ่งเหล่านี้คือปัจจัยสำคัญของชีวิตหลังเกษียณ แต่ลองคิดดูว่าถ้าเราเกษียณอายุ ไม่ได้ทำงานและต้องอยู่บ้านทุกวัน โดยต่อให้จะมีเครื่องออกกำลังกายเพื่อช่วยให้สุขภาพแข็งแรง มีเครื่องเล่นคาราโอเกะที่บ้าน ไว้ร้องเพลงแก้เหงา แต่ถ้าต้องทำกิจกรรมเหล่านั้นคนเดียว โดยไม่ได้หัวเราะ หรือพูดคุยกับใคร ชีวิตหลังเกษียณแบบนี้จะมีความสุขได้อย่างไร ?
มนุษย์ต่างวัยพาไปรู้จักกับ “Happy Space by YoungHappy” พื้นที่ความสุข สำหรับคนวัยเก๋า ณ สามย่านมิตรทาวน์ ที่เกิดขึ้นจากความตั้งใจที่จะเปิดพื้นที่แห่งความสุข ให้ผู้สูงวัยที่ใช้ชีวิตอยู่ในเมืองใหญ่ได้มีพื้นที่ทำกิจกรรม พบปะเพื่อนวัยเดียวกันที่ยังอยากลองทำสิ่งใหม่ๆ ได้เรียนรู้ สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคนต่างวัย เพื่อทำให้ชีวิตในวัยเกษียณยังสนุกสนานโดยไม่เอาตัวเลขอายุมาเป็นข้อจำกัดตัวเอง กิจกรรมที่นี่มีตั้งแต่ เต้นไลน์แดนซ์ งานฝีมือ เรียนภาษา สอนร้อนเพลง สอนใช้เทคโนโลยี เล่นบอร์ดเกม และอีกมากมาย ที่ช่วยให้ชีวิตชาวสูงวัยแอคทีฟได้ทุกวัน
พื้นที่แห่งความสุขสำหรับคนวัยเก๋าในกลางเมืองแห่งนี้ ยังช่วยตอบโจทย์ในการแก้ปัญหาความเหงา การใช้ชีวิตเพียงลำพังของผู้สูงอายุในเมืองซึ่งเป็นสิ่งที่จะนำมาซึ่งทุกขภาวะทั้งทางร่างกายและจิตใจ เพราะผู้สูงวัยที่มาที่นี่จะได้แบ่งปันประสบการณ์ดีๆ ร่วมกัน โดยมีน้องๆ คนรุ่นใหม่เป็นผู้จัดกิจกรรมและคอยดูแล รุ่นคุณลุง คุณป้า (ที่นี่จะเรียกกันว่า พี่) ทุกคนอย่างใกล้ชิด ราวกับคนในครอบครัว และที่นี่นอกจากจะเป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยกิจกรรมสนุกๆ ใจกลางเมืองแล้ว ยังเป็นการเปลี่ยนภาพจำต่อผู้สูงอายุที่คนมักคิดว่า น่าจะเป็นวัยที่นั่งเหงา ซึมเศร้าเก็บตัวตามลำพังอยู่ที่บ้านอีกด้วย เพราะถ้าใครได้มาเห็นพี่ๆ วัยเก๋าทำกิจกรรมก็คงจะคิดเหมือนกันว่า พวกเขาก็ไม่ต่างจากคนวัยอื่นๆ ที่ยังสดใส เปี่ยมไปด้วยชีวิต สนุกสนานกับเพื่อนฝูง และยังอยากเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ
สำหรับเพื่อนๆ วัยเก๋า ที่สนใจชีวิตแอคทีฟแบบนี้ หรือ ลูกหลานคนไหนอยากจูงมือคุณพ่อคุณแม่มาร่วมกิจกรรมใน “Happy Space by YoungHappy”
สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://younghappy.com/blog/category/activities-for-seniors/page/1
แอดไลน์ LINE: HTTPS://LIN.EE/KF9UB2P
ติดต่อ YOUNGHAPPY : HTTPS://LINKTR.EE/YOUNGHAPPY
หรือโทร: 06-5506-2889
กิจกรรมจัดเต็มทุกสัปดาห์ พบปะเพื่อนวัยเดียวกัน แอคทีฟได้ทุกวัน กับพวกเรา ‘ยังแฮปปี้’ . สามย่านมิตรทาวน์ ชั้น 2 เดินทางสะดวกด้วยรถไฟฟ้า MRT สถานีสามย่าน
“สมัยคุณแม่ยังมีแรง คุณแม่เป็นคนชอบเที่ยว ชอบไปตะลอนไปทั่วกรุงเทพฯ เคยถึงขั้นหนีลูกเที่ยวด้วย แต่พอคุณแม่อายุมากขึ้น เขาก็กลายเป็นคนเฉื่อยชา ไม่ค่อยพูด ไม่ค่อยหัวเราะ แถมเราพูดอะไรบอกอะไรก็ไม่ยอมฟัง ในฐานะลูก เราไม่อยากให้เขาแย่ลงแบบนี้เรื่อยๆ จึงตัดสินใจพาแม่ออกไปทำกิจกรรมนอกบ้านบ่อยๆ เพื่อให้ชีวิตคุณแม่มีสีสันมากขึ้น” พี่น้อย – เยาวภา รัตนวงษ์ (อายุ 65 ปี) บอกถึงเหตุผลที่พาคุณแม่มาทำกิจกรรมที่ “Happy Space by YoungHappy”
คุณน้อยค้นพบว่า เวลาตนเองหรือคนในบ้านแนะนำสิ่งดีๆ ให้ อย่างควรกินอะไร ควรออกกำลังกายแบบไหน คุณแม่จะไม่ค่อยเชื่อ แต่แม่จะเชื่อเพื่อนฝูงวัยเดียวกันที่เจอเวลาทำกิจกรรมนอกบ้านมากกว่า คุณน้อยจึงเปลี่ยนชีวิตคุณแม่ให้ดีขึ้น โดยอาศัยคำแนะนำจากคนอื่นที่คุณแม่ยอมฟังแทน ทำให้คุณน้อยต้องหาพื้นที่ที่มีคนวัยเดียวกับคุณแม่เพื่อให้แม่ได้พูดคุยกับคนอื่นได้
“เรารู้จัก Happy Space by YoungHappy จากอินเทอร์เน็ต มาร่วมกิจกรรมตั้งแต่เขาจัดพื้นที่อยู่ที่จามจุรีสแควร์ พอเขาย้ายมาเปิดที่สามย่านมิตรทาวน์ก็รู้สึกว่าสะดวก มาง่ายขึ้น เลยพาคุณแม่มา คุณแม่บอกว่ารักที่นี่เพราะมีกิจกรรมให้ทำเยอะ มีเพื่อนฝูงที่ชอบอะไรเหมือนๆ กัน ด้วยความที่คุณแม่อายุ 90 ปีแล้วซึ่งมากที่สุดในกลุ่มคนที่มาทำกิจกรรม ทุกคนเลยเรียกว่า “แม่ช้อย” จนคุณแม่รู้สึกเหมือนทุกคนเป็นลูกหลานในบ้านส่งผลให้คุณแม่มีชีวิตชีวามากขึ้นซึ่งความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนที่สุดคือ คุณแม่มีชีวิตชีวา หัวเราะมากกว่าเมื่อก่อน ความจำดีขึ้น เดินเหินคล่องแคล่วแถมตอนนี้ยังกลับบ้านไปหุงข้าว ใส่บาตร ทำบุญทุกเช้าเหมือนเมื่อก่อนได้แล้ว จนเราปลื้มใจไปด้วย
“เราดูแลคุณแม่แบบไม่ประคับประคองเขามากเกินไป เวลาอยู่ที่นี่ ไม่ว่าเขาจะเต้นไลน์แดนซ์ หรือเล่นบอร์ดเกมเราก็ปล่อยให้เขาเล่นเอง แบบไม่ต้องจูงมือเขาทำทุกอย่าง ถ้าเขาเต้นไหวก็ให้เขาเต้น เขาคิดแก้ปัญหาได้ก็ให้เขาคิดเอง โดยไม่ต้องไปขัดจังหวะ และปล่อยเขาสนุกกับเพื่อนฝูงเต็มที่ ซึ่งที่นี่ดีมากที่ทุกคนดูแลแม่ของเราอย่างเต็มใจ เลยกลายเป็นว่าคุณแม่ชอบเอาเรื่องดีๆ ที่คนอื่นสอนมาสอนเราด้วย ซึ่งก็เป็นเรื่องที่เราพยายามสอนคุณแม่ทุกวันที่บ้านอยู่แล้ว แต่เราก็ไม่ได้ติดอะไร ดีใจเสียอีก เพราะถึงคุณแม่จะดื้อไม่ค่อยฟังเรา แต่ถ้าฟังเพื่อนได้ คุยกับเพื่อนแบบมีชีวิตชีวาได้ เราก็ยินดีอยู่แล้ว
“ถึงคนแถวบ้านจะชอบบอกว่า จะพาคุณแม่ออกนอกบ้านทำไม เขาอายุเยอะแล้ว ออกไปก็อันตราย ทำไมไม่ให้เขาอยู่บ้านสบายๆ แต่เรามองกลับกัน เพราะเราอยากให้คุณแม่มีเพื่อน ได้เจอคนเยอะๆ ถ้าเขายังไหวเราก็จะพาเขาออกไปสนุกให้เต็มที่ เวลาออกจากบ้านเขายังได้คิด ได้ขยับร่างกาย ได้รู้จักวิธีแก้ปัญหา ถ้าแข็งแรงดีแต่ต้องนั่งอยู่บ้านเฉยๆ แล้วจะเป็นคนแข็งแรงไปเพื่ออะไรล่ะ
“เรามองว่าพื้นที่กิจกรรมตรงนี้ เอื้อต่อชีวิตผู้สูงอายุมาก เดินทางมาก็สะดวก เราขับรถไม่เป็นแต่ก็สามารถพาคุณแม่ขึ้นรถไฟฟ้า ขึ้นรถประจำทางมาก็ได้ และที่นี่ไม่เหมือนศูนย์กิจกรรมผู้สูงอายุที่เราเห็นทั่วไป คือไม่ดูเงียบเหงา เพราะมีคนรุ่นใหม่อายุ 20 ต้นๆ มาคอยดูแลและเป็นคนสอนสิ่งใหม่ๆ ให้เรา แถมยังได้เจอเพื่อนรุ่นเดียวที่อยากใช้ชีวิตตอนแก่แบบแอคทีฟเหมือนกัน เรากับคุณแม่เลยมาบ่อยจนไม่รู้สึกเหมือนพาคุณแม่มาเที่ยวแล้ว แต่เหมือนเพื่อนพาเพื่อนมาเที่ยวมากกว่า เพราะคุณแม่บอกว่าอยู่ที่นี่ทำให้รู้สึกสนุกเหมือนย้อนเวลากลับไปช่วงอายุ 60 ต้นๆ อีกครั้ง เราก็เลยคิดว่าตอนนี้คุณแม่สามารถย้อนเวลาตัวเองจนมีอายุเท่าเราได้แล้ว (หัวเราะ)”
พี่เก๋ – พรรณพิกุล วิทยนคร อายุ 67 ปี เคยทำธุรกิจขายเสื้อผ้าแต่พออายุย่างเข้าเลข 6 เธอก็ป่วยหลายโรค จนต้องหยุดทำงานแล้วมาอยู่บ้านเพียงลำพัง แม้ที่บ้านจะมีอุปกรณ์คลายเหงาพร้อมสรรพ อย่างอุปกรณ์ออกกำลังกาย เครื่องร้องคาราโอเกะ และเครื่องเล่นอื่นๆ ที่เอาไว้แก้เบื่อ แต่เธอพบว่าการออกกำลังกายคนเดียว เต้นคนเดียว ร้องเพลงคนเดียวนั้น ไม่เบิกบานเหมือนเวลาทำกับเพื่อนๆ เธอจึงหยุดทำกิจกรรมที่บ้านแล้วเดินทางมาทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อนๆที่ Happy Space by YoungHappy แทน
“พอเราอายุมากขึ้น ก็มีหลายโรคเข้ามารุมเล้าทั้งโรคข้อเสื่อม เบาหวาน ไปจนถึงมะเร็ง พอไปหาหมอเขาก็ถามว่าอยู่บ้านออกกำลังกายบ้างไหม เราก็ตอบแบบโกหกว่าออกกำลังกายทุกวัน ทั้งๆ ที่ความจริงเราทำน้อยมาก แต่อายหมอเลยต้องตอบไปอย่างนั้น เพราะอยู่บ้านคนเดียวเราก็เหงา เน้นนอนดูทีวี ซีรีส์ ฟังเพลงไป พวกอุปกรณ์ออกกำลังกายถึงมีที่บ้านก็ไม่ค่อยได้แตะ เพราะเล่นคนเดียวมันเหงา
“เคยไปสมัครเป็นสมาชิกฟิตเนส แล้วไปออกกำลังกายเป็นปีก็ยังไม่รู้สึกสนุกยังไม่คิดว่าเป็นสิ่งที่อยากทำเพราะให้ความรู้สึกเหมือนไปเข้าค่ายอดอาหาร เทรนเนอร์กับคนที่มาเล่นด้วยก็คนละวัยกับเรา คุยกันคนละเรื่อง คนละภาษา สุดท้ายก็จบที่เสียเงินโดยไม่ได้อะไร สุขภาพก็ไม่ได้ดีขึ้น
“พอมาได้รู้จัก Happy Space by YoungHappy ที่สามย่านฯ ชีวิตเราก็ค่อยๆ ดีขึ้น เพราะที่นี่เขาเข้าใจเรา คนรุ่นใหม่ที่เป็นน้องๆ ทีมงานที่นี่เข้ารู้ว่าผู้สูงอายุต้องการอะไร ชอบอะไร ไม่ชอบอะไร แถมกิจกรรมก็เป็นประโยชน์มาก เราชอบ ไม่ใช่แค่ทำให้ผู้สูงอายุไม่เหงา แต่ยังพัฒนาความรู้และเปิดมุมมองใหม่ๆ ให้คนวัยเราไม่กลายเป็นคนตกยุค
“เราชอบเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ที่นี่ก็มีสอนทั้งการใช้แอปพลิเคชัน บอร์ดเกม แต่เราจะชอบเต้นไลน์แดนซ์ที่สุด เพราะชอบเคลื่อนไหว ขยับร่างกาย และไลน์แดนซ์ต่างกับการเล่นฟิตเนสตรงที่เป็นการเคลื่อนไหวร่างกาย ไปพร้อมๆ กับเสียงเพลง พอได้เต้นเราเลยค้นพบว่าตัวเองเต้นได้เข้ากับจังหวะเพลงมาก แถมได้เต้นไปพร้อมกับเพื่อนๆ วัยเดียวกันที่รักในเสียงเพลงเหมือนกันยิ่งทำให้เราเบิกบานขึ้นไปอีก และเดิมทีเรามองตัวเองเป็นคนร่างใหญ่ที่ทำอะไรเทอะทะ จะลุกจะนั่งในบ้านก็รู้สึกอึดอัดไปหมด แต่หลังจากเต้นเพื่อนๆ ทุกคนบอกว่าเราพลิ้วมาก เต้นสวย เราก็เลยรู้สึกเหมือนเป็นคนหุ่นดีเวลาเต้นขึ้นมาทันที
“ต่อให้ชีวิตหลังเกษียณจะมีทุกอย่างเพียบพร้อมแค่ไหน แต่ถ้าขาดเพื่อน ขาดสังคมดีๆ ก็ไม่มีความสุขอยู่ดี อยู่บ้านนานก็ยิ่งเหงา และอวัยวะไหนที่ไม่ได้ใช้นานก็จะเสื่อมสภาพไปตามเวลา ยิ่งไม่ได้พูดกับใครนานก็ยิ่งเป็นคนพูดกับคนอื่นได้ยากขึ้น ยิ่งไม่ได้ขยับเขยื้อน ร่างกายก็ยิ่งเสื่อม ฉะนั้นอย่าปล่อยให้ไปถึงขั้นนั้นเลย ยิ่งแก่ต้องยิ่งเข้าสังคม ไม่ใช่ออกห่างสังคม อย่างตอนนี้จากที่เราไม่ค่อยได้คุยกับใคร กลายเป็นคนที่คุยกับเพื่อนไม่หยุดทุกครั้งเมื่อมาสามย่านฯ ทุกวันนี้กลับบ้านไป เปิดคอมคุยออนไลน์กับลูกที่เรียนอยู่อังกฤษทุกวัน และลูกเขาก็ดีใจที่เห็นแม่มีเพื่อนเยอะ แม่กล้าออกจากบ้านบ่อยขึ้น
“กลายเป็นว่าหลังจากทำกิจกรรมนอกบ้านบ่อยขึ้น ไปหาหมอครั้งล่าสุด หมอก็บอกว่าพี่เก๋ดูสดใสขึ้น ค่าน้ำตาล ความดัน และอื่นๆ ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด พอหมอถามว่าเราไปทำอะไรมา เราก็บอกมาเจอเพื่อน มาออกกำลังนอกบ้านมากขึ้น เลยดูสวยขึ้น (หัวเราะ)”
“มาที่นี่ไม่เหมือนมาบ้านพักคนชราแน่นอน เพราะเพื่อนๆ สูงวัยทุกคนเขาแอคทีฟมาก พอทำกิจกรรมเสร็จ พวกเขาก็ชวนเราไปกินข้าว ไปเดินชอปปิง แล้วก็นั่งเม้าท์มอยกันเหมือนเพื่อน ม. ปลายหลังเลิกเรียนเลย ซึ่งก็มีแต่คนดีๆ ทั้งนั้น บางคนแนะนำวิธีควบคุมอาหารให้เราแนะนำวิธีออกกำลังกายที่เราว้าวมากๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราหาไม่ได้แน่นอนถ้าอยู่แต่ในบ้าน”
“การช่วยให้คนที่นี่ทำสิ่งที่ไม่คิดว่าจะทำได้ ให้ทำได้ คือความสุขที่สุดของเรา”
คุณต้อย สุภนันท์ แก้วรุ่งเรือง (อายุ 58 ปี) เคยทำงานพยาบาลมา 3 ปี และด้วยความที่เธออยากทำงานด้านกิจกรรมเพื่อสังคมเต็มตัว เธอจึงผันตัวเองมาเป็นฝ่าย Community Support ที่ “Happy Space by YoungHappy” เพื่อมอบเสียงเพลง และความสนุกสนานเพลิดเพลินให้กับพี่ๆ สูงวัย ณ สามย่านมิตรทาวน์
.
“เรามาเริ่มต้นงานที่นี่โดยมีหน้าที่ตอบไลน์ ตอบแชท คอยตอบคำถามพี่ๆ ที่ทักเข้ามาเล่าปัญหาให้ฟัง ซึ่งทำให้เราพบว่าผู้สูงอายุหลายคนในเมืองเผชิญความเหงาและห่างเหินจากลูกหลานเหมือนๆ กัน จนน่าเป็นห่วง เราเลยอยากให้เขามาเจอเพื่อนใหม่ๆ ที่นี่”
.
“ทำงานที่นี่ได้ความสุขทางด้านจิตใจมาก การได้สอนให้พี่ๆ สูงวัย โหลดแอปพลิเคชัน แอดเพื่อน ปรึกษาเรื่องใช้เทคโนโลยี แล้วเราเห็นเขาทำจนสำเร็จ ถึงมันจะเป็นเรื่องง่ายๆ แต่สำหรับพวกเขามันยากจนต้องมาขอบคุณเราที่ช่วยให้เขาทำได้ มันก็ทำให้เราอิ่มเอมไปด้วย
.
“เราเป็นคนชอบเล่นดนตรีอยู่แล้ว ที่นี่เลยทำให้ความฝันที่เราจะมีวงดนตรีเป็นของตัวเองเป็นจริง เรามาสอนพี่ๆ ที่นี่เล่นอูคูเลเล่ เล่นคีย์บอร์ด เล่นกีตาร์ได้ ทำให้เราในฐานะผู้ฝึกสอน กับพี่ที่มาเรียนก่อตั้งวงที่ชื่อ “วงร่วมหลายร้อย” มีสมาชิกทั้งหมดเป็นคนสูงวัย กลายเป็นความรู้เรื่องดนตรีของเราช่วยเติมเต็มสีสันที่หายไปของเรา และของตัวพี่ๆ เขาได้ซึ่งเราภูมิใจมาก
.
“ในฐานะที่พี่ใกล้จะเข้าวัยเกษียณแล้ว เราได้สัมผัสความอบอุ่นแบบที่ไม่เคยเจอที่ไหนมาก่อน พื้นที่ตรงนี้เต็มไปด้วยคนต่างเจเนอเรชัน ปกติจะเห็นแต่คนแก่สอนคนแก่ด้วยกัน แต่ที่นี่เราได้เห็นคนรุ่นใหม่อาสามาสอนคนรุ่นใหญ่ทำกิจกรรมต่างๆ ทั้งเล่นบอร์ดเกม ทั้งสอนเต้น หรือสอนใช้มือถือจนคล่อง และยังดูแลกันแบบหลานดูแลปู่ ย่า ลูกดูแลพ่อแม่ ซึ่งเราเชื่อว่าน้องๆ คนรุ่นใหม่ที่มาทำงานที่นี่ก็คงได้มุมมองดีๆ กลับไปใช้กับผู้สูงอายุที่บ้านของตัวเอง ได้รู้ว่าคนวัยพ่อแม่ปู่ย่าตายายเราคิดยังไงตอนที่อายุเท่านี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ในสังคมข้างนอกไม่มีสอนอย่างแน่นอน เราเลยคิดว่าเราโชคดีมากที่ได้มาเห็นภาพนี้ทุกๆ วัน”
“สิ่งหนึ่งที่เราผลักดันมาตลอดคือการแก้ไขภาพลักษณ์ของผู้สูงอายุ เพราะคนส่วนใหญ่มักมีภาพจำว่าผู้สูงอายุทำอะไรไม่ได้ ชอบอยู่เฉยๆ ไม่ออกจากบ้าน เราเลยมาจัดกิจกรรมตรงนี้เพื่อเปลี่ยนภาพจำนั้น ตอนนี้เราอยู่ในสังคมผู้สูงอายุเต็มตัวแล้ว แต่ช่องว่างระหว่างวัยในสังคมเรายังเป็นปัญหาใหญ่ที่ต้องจัดการ คำถามคือจะแก้ปัญหายังไงถ้าเราไม่นำพวกเขามาอยู่ใกล้เราให้ได้ก่อน” คุณแก๊ป – ชาคิต พรหมยศ (อายุ 35 ปี) หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ “ยังแฮปปี้ YoungHappy” เล่าถึงว่าทำไมถึงเลือกสามย่านมิตรทาวน์ เป็นพื้นที่ความสุขของคนวัยเก๋า
“ที่ ยังแฮปปี้ เราเน้นทุกกิจกรรมที่ช่วยลดช่องว่างระหว่างวัย เรามีทั้งกิจกรรมที่ผู้สูงอายุทำด้วยกันเอง และทำกับลูกๆ หลานๆ คนต่างวัยเพื่อลดช่องว่างระหว่างวัย ผลงานศิลปะหลายชิ้น ทั้งงานคราฟท์ ภาพวาดที่พ่อแม่และลูกช่วยกันวาดก็เอามาตั้งโชว์ตามมุมต่างๆ ในพื้นที่ เพื่อให้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาได้เห็นไปเลยว่า หากคนต่างวัยจับมือกันจริงๆ พวกเขาสามารถสร้างผลงานดีๆ ด้วยกันได้ตั้งหลายอย่าง
“ความปลื้มใจที่สุดของเราตอนนี้คือ การที่มีคนรุ่นใหม่เดินมาบอกเราว่า แปลกใจที่ภาพผู้สูงอายุที่นี่ไม่เหมือนกับที่อื่น พี่ๆ ที่นี่ดูมีชีวิตชีวามีพลังงานดีๆ แผ่ออกมาตลอดเวลา เห็นแล้วอยากพาพ่อแม่ ผู้สูงอายุที่บ้านมาร่วมกิจกรรมบ้าง ซึ่งเราก็เห็นอย่างนั้นจริงๆ
“เหนือสิ่งอื่นใด เราอยากแก้ปัญหาความเหงาในผู้สูงอายุ นอกจากผู้สูงอายุจะยังต้องการเพื่อนแล้ว พวกเขายังต้องการพื้นที่ที่มาสนุกกับเพื่อนๆ ได้ ถ้าคนรุ่นใหม่ยังมีพื้นที่กิจกรรมมากมายให้นั่งทำกับเพื่อนในห้าง ทำไมผู้สูงอายุจะมีบ้างไม่ได้” คุณแก๊ปให้เหตุผลว่าทำไมพื้นที่สำหรับผู้สูงอายุถึงต้องมาตั้งอยู่ในห้างใจกลางเมืองที่เป็นย่านของคนรุ่นใหม่”
“สำหรับผู้สูงอายุ สิ่งที่เพิ่มมากขึ้นคืออายุ แต่จริงๆ แล้ว ประสบการณ์ ความรู้ และศักยภาพของพี่ๆ ยังคงมีอยู่ น่าเสียดายมากที่จะตัดโอกาสการพัฒนาตัวเอง เพียงเพราะว่าอายุมากหรือมีความคิดว่าต้องพักผ่อน ‘ไม่มีใครแก่เกินเรียน’ น่าจะเหมาะกับพื้นที่นี้ มีพี่ๆ หลายคนที่ค้นพบความชอบของตัวเองจากการลองทำกิจกรรมที่นี่ หลายคนที่มาใหม่ บอกว่าอายุมากแล้วจะทำได้เหรอ พอสองชั่วโมงออกจากคลาสมา หน้าตายิ้มแย้มภูมิใจมาก แล้วบอกว่าอยากลองกิจกรรมอื่นอีก รอยยิ้มของพี่ๆ เหล่านี้คือรางวัลในการทำงานของพวกเรา” คุณแนน -วริศรา กลีบบัว ผู้อำนวยการและหุ้นส่วน “ยังแฮปปี้ YoungHappy” ทิ้งท้ายถึงความสุขที่ได้รับจากการทำงานที่ Happy Space by YoungHappy พื้นที่ความสุขของคนวัยเก๋า”
