รู้ไหมว่า? หากมีฟัน 20 ซี่ ตอนอายุ 80 จะทำให้สุขภาพดีขึ้นเป็นเท่าตัว

รู้ไหมว่า…ทุกสิ่งบนโลกนี้ต่างมีความลับซ่อนอยู่ ไม่ว่าปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ จนถึงอวัยวะเล็กจิ๋วของมนุษย์ อย่าง ‘ฟัน’ อวัยวะสำคัญในช่องปากที่ต้องดูแลและห้ามละเลยไม่ต่างจากอวัยวะอื่น จึงอยากชวนเพื่อนๆ มาไขความลับของฟัน ที่หลายคนยังไม่เคยรู้มาก่อน และหาคำตอบว่าทำไมเราต้องดูแลรักษาฟันให้ดีในทุกช่วงวัย

รู้ไหมว่า…ฟันมีชีวิต (1)

ใครจะเชื่อว่า ฟัน คือ อวัยวะที่มีชีวิต หากเราเข้าไปดูภายในของฟัน พบว่ามีโพรงโปร่งๆ เป็นช่องว่างอยู่ด้านใน ซึ่งบรรจุเส้นเลือดและเส้นประสาทเล็กๆ ทำหน้าที่หล่อเลี้ยงฟัน ทั้งหมดประกอบจากเซลล์ที่เป็นอวัยวะหน่วยย่อยที่สุดของมนุษย์ หากเปรียบเทียบกับสิ่งมีชีวิต “ฟัน” ไม่ต่างจาก ปะการัง เป็นสิ่งมีชีวิตผิวแข็ง และดูเหมือนไม่ขยับตัว แต่กลับมีชีวิตที่ น่าอัศจรรย์ นอกจากนี้เวลาเคี้ยวอาหาร ฟันมีการขยับตัว เกิดการเคลื่อนที่เล็กน้อย โยกซ้ายนิดขวาหน่อย เพียงแต่เราไม่รู้ตัว เท่านั้นเอง

รู้ไหมว่า…ฟันแข็งแรงกว่าที่คิด (2)

มีสถิติบันทึกในกินเนสส์บุ๊ก (Guinness Book of World Records) ว่า มีชายหนุ่มชาวมองโกเลียทุบสถิติโลก โดยใช้ ฟันลากรถบัสน้ำหนักกว่า 15 ตัน เป็นระยะทางรวม 15 เมตร ผลดังกล่าวชี้ชัดและตรงกับข้อพิสูจน์ในการทดลอง ว่าฟันเป็นอวัยวะที่แข็งแรงที่สุดในร่างกาย แข็งแรงกว่ากระดูกเสียอีก โดยส่วนที่แข็งแรงที่สุดคือชั้นเคลือบฟัน (Enamel) หรือผิวนอกของฟัน ซึ่งเป็นส่วนเนื้อเยื่อที่สามารถมองเห็นได้เพราะอยู่นอกสุด ทำหน้าที่กระทบอาหาร เคี้ยว กัด ฉีก อีกสารพัดประโยชน์ใช้งาน แต่ไม่แนะนำให้ใช้เปิดฝาขวดเด็ดขาด!!

รู้ไหมว่า…อายุขัยของฟันยาวนานกว่าอายุเราเสียอีก (3)

นักโบราณคดีค้นพบกะโหลกมนุษย์โบราณ ที่มีฟันสมบูรณ์ในหลายพื้นที่ของโลก บางแห่งมีอายุมากกว่า 1,000 ปี ซึ่งสามารถนำองค์ประกอบของฟันเหล่านั้นมาตรวจสอบถึงลักษณะนิสัยการใช้ชีวิตและความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าของฟันกับพื้นที่รอบข้างได้อีกด้วย แม้ว่าร่างกายจะสูญสลายไปแต่ฟันกลับยังคงอยู่ หลักฐานดังกล่าวหักล้างความเชื่อที่ว่ายิ่งอายุมากขึ้นฟันก็อ่อนตัวลงและหลุดออกไปนั้น ไม่เป็นความจริง รวมถึงฟันสามารถบอกประวัติสุขภาพในอดีตได้ผ่านชั้นเนื้อเยื่อที่ครอบคลุมรากฟัน ที่เรียกว่าเคลือบรากฟัน (cementum) จากการค้นพบของนักมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยนิวยอร์กของสหรัฐฯ ชี้ว่าภายในเคลือบรากฟัน มีเนื้อเยื่อแข็งที่เรียงซ้อนกันตามกาลเวลาคล้ายวงปีของต้นไม้ ซึ่งชั้นเนื้อเยื่อเหล่านี้ มีการปรับตัวและตอบสนองต่อกระบวนการทางกายภาพของเจ้าของร่างกายตลอดเวลา ขณะเดียวกันก็เป็นเหมือนการบันทึกข้อมูลเหตุการณ์สำคัญในชีวิต ที่ส่งผลต่อสุขภาพโดยตรง

รู้ไหมว่า…หากมีฟัน 20 ซี่ ตอนอายุ 80 จะทำให้สุขภาพดีขึ้นเป็นเท่าตัว (4)

​ฟันแต่ละตำแหน่งทำหน้าที่แตกต่างกันออกไป ฟันหน้าใช้ตัด ฟันหลังใช้เคี้ยว หากไม่สามารถใช้งานฟันหลัง 4 คู่สบได้ ก็ไม่สามารถเคี้ยวอาหารอย่างมีประสิทธิภาพได้ การมีฟัน 20 ซี่ เป็นการรับประกันว่าในช่องปากจะมีฟันที่มีคุณภาพและมีจำนวนเพียงพอต่อการใช้งาน หากไม่มีฟัน ปัญหาแรกที่ตามมาคือ ภาวะขาดสารอาหาร เนื่องจากฟันไม่สามารถบดอาหารลักษณะแข็งโดยเฉพาะผักและผลไม้ ที่เป็นแหล่งของวิตามิน เกลือแร่ และไฟเบอร์ต่างๆ ที่จำเป็น ต่อมาคือเรื่องสุขภาพจิตใจ ผู้สูงอายุจะไม่มีความมั่นใจ จากการไม่มีฟัน ใบหน้าจะดูมีอายุมากกว่าที่ควรจะเป็น นำไปสู่การไม่อยากออกสังคม เปลี่ยนผู้สูงอายุที่แข็งแรงเป็นผู้สูงอายุติดบ้าน นานเข้าอาจเกิดภาวะโรคซึมเศร้า โรคอัลไซเมอร์ และโรคอื่นๆ ตามมา ในที่สุด

รู้ไหมว่า… ปัญหาสุขภาพและปัญหาช่องปากเป็นเรื่องเดียวกัน (5)

เชื่อว่าหลายคนเคยได้ยินสำนวนว่า ‘You are what you eat’ หรือ ‘กินอะไร ก็เป็นเช่นนั้น’ มาบ้าง ซึ่งใช้อธิบายความสัมพันธ์ระหว่างสุขภาพช่องปากกับโรคต่างๆ ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะโรคฟันผุ เป็นโรคที่พบได้มากสุดเป็นอันดับสอง รองจากไข้หวัด ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย สาเหตุสำคัญมาจากการรับประทานอาหารประเภทแป้งและน้ำตาลมากเกินไป ผสมกับการรักษาความสะอาดที่ไม่ดีพอ จนเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรียทำลายผิวฟัน อาจลุกลามไปถึงโพรงประสาทฟัน แพร่กระจายเข้ากระแสเลือดส่งผลเสียต่ออวัยวะสำคัญ และโรคอื่นๆ ตามมาอย่าง หัวใจ เบาหวานและความดัน นอกจากปัญหาด้านสุขภาพแล้ว ยังส่งผลถึงปัญหาด้านจิตใจและอารมณ์ ดังนั้นแล้วการเลือกอาหารการกินเป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กับ การดูแลรักษาฟันเลย

รู้ไหมว่า…มีสถิติบันทึกถึงชายผู้ไม่เคยเป็นฟันผุแม้แต่ซี่เดียว (6)

​มีใครอยากเป็นคนที่อายุยืนและฟันไม่ผุบ้างไหม พิพิธภัณฑ์ ริปลีย์ เชื่อหรือไม่ (Ripley’s Believe It or Not!) ลงบันทึกว่า คุณตา แฟรงค์ เมดินา แห่งเมือง สต็อกตัน ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นแชมป์ชายอายุมากที่สุดซึ่งไม่เคยฟันผุเลย หากใครอยากล้มสถิติคุณตา ต้องดูแลรักษาฟันอย่างสม่ำเสมอให้สมบูรณ์แข็งแรง และคุณตาบอกเคล็ดลับการดูแลฟันว่ามาจากการรับประทานอาหารที่ดีมีประโยชน์

รู้ไหมว่า…หากอยากฟันสวยต้องรักษาฟันแท้ซี่แรกที่ขึ้นให้ได้ (7)

วัยเด็กอายุ 5-7 ขวบเป็นช่วงเวลาที่ฟันกรามแท้ซี่แรกขึ้นมาก่อนใคร เปรียบดั่งเสาเอกของฟัน หากฟันกรามแท้ 4 ซี่ขึ้นครบและเรียงตัวอย่างดีรับรองได้ว่าไม่มีปัญหาเรื่องการจัดฟันแน่นอน เพราะหากฟันกรามซี่ใดหายไป ฟันซี่อื่นจะขึ้นโดยมีการขยับออกหรือเบียดเข้ามาทำให้การเรียงตัวผิดปรกติ โดยฟันเหล่านี้ขึ้นในขณะที่ยังเป็นเด็ก อาจไม่ได้รับการดูแลที่ดีพอ หรือมองว่ายังคงเป็นฟันน้ำนมจะหลุดไปก็ไม่มีปัญหาซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด

รู้ไหมว่า…หากไม่มีฟันกินอาหารไม่อร่อย (8)

รสชาติของความอร่อย ไม่ได้มีเพียง หวาน มัน เค็ม เท่านั้น ยังมีลักษณะการสัมผัสพื้นผิวอาหาร ความร้อนและเย็น ซึ่ง ฟัน ไม่ได้มีปุ่มรับรสแต่สามารถรับความรู้สึกดังกล่าวได้ เช่น ในกรณีของผู้ที่ชอบรับประทานขนมกรุบกรอบเพราะเวลาเคี้ยวฟันสามารถสัมผัสได้ถึงความกรอบบาง เมื่อขยับขากรรไกรเคี้ยวฟันกระทบอาหาร มีเสียงดัง กร๊อบ!! ที่ช่วยเพิ่มความอร่อยเป็นเท่าตัว หรือผู้ชื่นชอบการรับประทานไอศกรีมมักเจอความรู้สึกเสียวฟันจากความเย็นที่กระทบกับฟันโดยฉับพลัน เมื่อไม่มีฟันก็ไม่สามารถรับความรู้สึกเหล่านี้ ทำให้รสสัมผัสของอาหารลดความอร่อยลงไปทันที

รู้ไหมว่า…ยิ่งเคี้ยวความจำยิ่งดี (9)

จากผลการศึกษาทางแพทย์ ยืนยันว่าการเคี้ยวส่งผลต่อการทำงานของสมองในหลายๆ ด้าน นอกจากช่วยกระตุ้น ต่อมน้ำลาย และต่อมใต้หู ให้หลั่งฮอร์โมนออกมามากขึ้น ยังช่วยกระตุ้นความคิดและสมาธิความจำได้ดียิ่งขึ้น หากเคี้ยวอาหารให้ละเอียดยิ่งเป็นประโยชน์ต่อระบบย่อยอาหารอีกด้วย

รู้ไหมว่า…ไม้จิ้มฟันคือศัตรูตัวร้ายของฟัน (10)

ไม้จิ้มฟันเป็นสิ่งที่พบเห็นได้ทั่วไปประจำโต๊ะอาหารทั่วไป แต่ใครจะรู้ว่าการใช้ไม้จิ้มฟันหลังมื้ออาหาร เพื่อกำจัดเศษอาหาร เป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวัง ไม่ควรใช้ไม้จิ้มฟันดัน แคะหรืองัดอย่างรุนแรง เพราะจะทำให้เกิดปัญหาซอกฟันโหว่ ฟันห่าง โดยเฉพาะเหงือกร่น ที่มักพบมากที่สุดในผู้ที่มีนิสัยการใช้ไม้จิ้มฟันเป็นประจำ การดูแลสุขภาพปากและฟันให้ดีที่สุด คือการแปรงฟันทุกครั้งหลังมื้ออาหารเป็นประจำทุกวัน เลือกใช้แปรงสีฟันที่มีขนาดเหมาะสมกับช่องปาก และใช้ไหมขัดฟันอย่างสม่ำเสมอ

Credits

Author

  • อิสรากรณ์ ผู้กฤตยาคามี

    Authorนัก(หัด)เขียน รอนแรมจากเมืองปลายทะเลสู่การศึกษาริมยอดดอย และติดอยู่ในเมืองหลวง หลงใหลในหลากหลายสิ่ง ตั้งแต่รากเหง้ายันมนุษย์อวกาศ ยิ่งมีคาเฟอีนซ่าๆ พร้อมบทสนทนาดีๆ คงเป็นวันที่ดีอีกวันหนึ่งในชีวิต

ถึงจะต่างวัยแต่ก็
อยู่ร่วมกันอย่างเข้าใจ