“เราแต่งงานกันมา 27 ปี ไม่มีใครคาดคิดว่าวันหนึ่งคนที่อยู่ตรงหน้าตื่นขึ้นมาจะจำเราไม่ได้ ถึงแม้จะเป็นเพียงเวลาชั่วคราว แต่สำหรับพี่มันคือบททดสอบของการใช้ชีวิตคู่ร่วมกันในบั้นปลาย”
คำมั่นสัญญาต่อพระเจ้าในวันแต่งงานคือเราจะอยู่ดูแลกันทั้งยามสุขและยามทุกข์ มนุษย์ต่างวัย พาไปทำความรู้จัก พี่นา – ชนันษร วัชรกุลปรีชาชาติ อายุ 60 ปี กับเรื่องราว 48 ชั่วโมงที่สามีสูญเสียความทรงจำ จากอาการเลือดคั่งในสมอง เปลี่ยนคนตรงหน้าที่รักและดูแลกันมากว่า 27 ปี กลายเป็นคนไม่รู้จักกันเพียงข้ามคืน
ความฝันหลังเกษียณของเราคือ “เดินป่า” ไปด้วยกัน
“พี่นา และ พี่หนุ่ย สามีของพี่นา เป็นครูอยู่ที่ จ.พะเยา ซึ่งอีก 1 เดือนกำลังจะเกษียณอายุราชการ ทั้งคู่วางแผนร่วมกันว่าหลังจากเกษียณจะใช้ชีวิตในการแบกเป้ เข้าป่า ไปด้วยกันทุกดอยที่ยังไม่เคยไปในวันที่มีแรงอยู่ เพราะทั้งคู่หลงรักการเดินป่ามากว่า 9 ปี ทุกครั้งที่พี่นาแพ็กกระเป๋าขึ้นดอยก็จะมีพี่หนุ่ยเคียงข้างไปด้วยกัน สนุกด้วยกัน เหนื่อยด้วยกัน และมีความสุขไปพร้อมๆ กัน
“พอเราชอบอะไรเหมือนกัน เราก็เลยไปด้วยกันได้ทุกที่ นั่นคือความโชคดีของพี่อย่างหนึ่ง พี่จะคุยกันตลอดว่า เดี๋ยวเราจะเตรียมร่างกายให้พร้อม แล้วเราจะไปขึ้นดอยกัน จะเก็บทุกดอยในประเทศที่ยังไม่เคยไปเลย ตอนคุยกันวางแผนกันสำหรับพี่เป็นอะไรที่ทั้งตื่นเต้นและรอคอย อีกแค่เดือนเดียวเท่านั้น ภาพฝันของพี่และพี่หนุ่ยก็จะเป็นจริง”
48 ชั่วโมงเปลี่ยนชีวิต เปลี่ยนแผนเกษียณ
“ชีวิตคนเรามักมีสิ่งที่ไม่คาดคิดเสมอ แม้พี่จะใช้ชีวิตแบบไม่ประมาท คิดเผื่อไว้แล้วว่าอายุขนาดนี้การเจ็บป่วย ตาย เป็นเรื่องที่ต้องเกิดขึ้น แต่พอมันเกิดขึ้นกับเราจริงๆ มันไปต่อไม่ถูก หลังจากที่พี่หนุ่ยกลับจากการประชุมงานกีฬาที่โรงเรียน ก็ประสบอุบัติเหตุจากการขับรถมอเตอร์ไซค์เสียหลักตกลงข้างทาง ส่งผลให้เลือดคั่งในสมอง 2 ก้อนใหญ่ และมีอาการสมองบวม
“ซึ่งใน 48 ชั่วโมงพี่หนุ่ยยังมีสติ แต่สิ่งที่ไม่เหมือนเดิมคือ เขาจำใครไม่ได้เลย จำเราไม่ได้ จำลูกไม่ได้ จำตัวเองไม่ได้ ในตอนที่รู้ว่าเขากำลังจะจำเรื่องราวที่เราอยู่กันมาตลอด 27 ปีไม่ได้ ในใจของพี่ว่างเปล่ามาก ทั้งทุกข์ ทั้งเสียใจ ทั้งสับสนว่าจะเอายังไงต่อไปดี”
48 ชั่วโมงที่ต้องตัดสินใจเลือกให้อยู่ต่อหรือจากไปตลอดกาล
“ในระหว่างนั้นแม้ใจจะเจ็บแต่สติคือสิ่งที่สำคัญที่สุด หมอแจ้งกับพี่ว่าจำเป็นต้องผ่าตัด หลังการผ่าตัดพี่หนุ่ยอาจไม่ได้กลับมาเป็นคนเดิมอีก อาจจะติดเตียงหรือกลายเป็นเจ้าชายนิทรา แต่หากไม่ผ่าตัดพี่หนุ่ยก็จะจากไปตลอดกาล นาทีนั้นพี่ตัดสินใจว่าไม่ว่ายังไงก็จะดูแลเขาให้ถึงที่สุด ไม่ว่าเขากลายจะกลายเป็นเจ้าชายนิทราหรือติดเตียงไปตลอดก็ตาม
“ในตอนนั้นระหว่างรอการผ่าตัด พี่เตรียมหาข้อมูลทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ เข้ากลุ่มดูแลผู้ป่วยติดเตียง เตรียมพับแผนเกษียณในการเดินป่า เพื่อที่จะได้ดูแลสามีอย่างเต็มที่”
คำอธิษฐานต่อพระเจ้า “เราจะดูแลกันยามสุขและยามทุกข์” ไปตลอดชีวิต
“พี่เป็นคาทอลิก ดังนั้นพี่จึงศรัทธาต่อพระเจ้ามากๆ ในวันแต่งงานเราอธิษฐานต่อพระเจ้าว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เราจะอยู่ดูแลกันทั้งยามสุขและยามทุกข์ พี่กับพี่หนุ่ยผ่านช่วงที่สุขด้วยกันมามาก นี่คือช่วงเวลาที่ต้องพิสูจน์คำอธิษฐานแล้วว่า ในวันที่เขาทุกข์ที่สุดเราจะยังอยู่เคียงข้างกันไหม ถ้าถามว่าพี่เสียดายช่วงเวลาหลังเกษียณ กับภาพที่วาดฝันกันไว้ไหม พี่กลับไม่รู้สึกเสียดายนะ เรารู้สึกว่าอย่างน้อยครั้งหนึ่งเราก็เคยไปทำในสิ่งที่ชอบด้วยกันมาแล้ว เรื่องที่เกิดขึ้นตรงหน้าคือสิ่งที่ต้องยอมรับและเดินหน้าต่อด้วยกัน
“คนรุ่นเก่าแบบพี่เราถูกปลูกฝังมากับคำสอน กับความเชื่อที่ว่าถ้าคู่กันแล้วต้องคู่กันตลอดไป อาจจะต่างกับเด็กรุ่นใหม่ที่เขามีความคิดความเชื่ออีกแบบเปลี่ยนไปตามยุคสมัย”
เตรียมใจรับมือกับสิ่งที่ทุกคนต้องเจอ ‘ความเจ็บและความตาย’
“หลังจากที่รอการผ่าตัด พี่หนุ่ยก็มีอาการดีขึ้นจนไม่ต้องรับการผ่าตัด เป็นเคสที่เรียกว่าปาฏิหาริย์ ความโชคดีคือความทรงจำไม่หายไปถาวร เขาเริ่มจำลูกได้ จำภรรยาได้ กลับมาใช้ชีวิตได้เหมือนคนปกติ แต่หลายๆ อย่างก็ไม่เหมือนเดิม เพราะความจำบางส่วนหายไป นิสัยหลายๆ อย่างเปลี่ยนไปเป็นอีกคน คนตรงหน้ายังเป็นคนที่พี่รักเสมอและตลอดมา แม้วันนี้เราอาจจะเหมือนไม่รู้จักเขาในบางมุมแล้วก็ตาม
“เพราะชีวิตคู่ไม่ได้มีแค่วันที่เราแต่งงาน วันที่ได้ดอกไม้สวยๆ แต่มันยังมีช่วงบั้นปลายของการครองคู่ที่ไม่มีใครหนีพ้นนั่นคือความเจ็บและความตาย สิ่งสำคัญที่สุดคือการรับมือและการตั้งสติ ในที่นี้คือการรับมือกับจิตใจ หากวันหนึ่งต้องเกิดความเปลี่ยนแปลง หรือแม้กระทั่งสูญเสีย เราจะประคองใจอย่างไรให้ก้าวผ่านวันนั้น นั่นคือสิ่งที่สำคัญกว่า
“สำหรับพี่ การได้ดูแลสามีในช่วงบั้นปลายของชีวิต คือความสุขที่ได้ทำหน้าที่สมบูรณ์ดั่งที่ตั้งใจไว้ตั้งแต่วันแรกของการแต่งงาน พี่นาขอส่งกำลังใจให้ทุกท่านที่กำลังต้องดูแลคู่ชีวิตที่ป่วย หรือสูญเสียคู่ชีวิต ให้กลับมามีรอยยิ้มได้อีกครั้งและก้าวเดินต่อไป”