“เด็ก ๆ จะพูดเพราะกับผมมากกว่าครูคนอื่น ๆ ไม่ใช่เพราะผมมีตำแหน่งใหญ่โต แต่เพราะผมพูดครับกับเขาทุกคำ”
“สวัสดีครับ สุดยอดครับ น่ารักมากครับ” เสียงทักทายเด็กนักเรียนที่คุ้นหูที่มักจะมาพร้อมกับรอยยิ้มที่คุ้นตาเด็กอมาตของอาจารย์เกียรติวรรณ อมาตยกุล ชายวัย 72 ปี ที่ยังดูแข็งแรงและมีเปี่ยมด้วยพลังในการทำงาน อ.เกียรติวรรณเป็น ผู้ก่อตั้งโรงเรียนอมาตยกุล ที่ไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นผู้บริหาร แต่เป็นเพียงคนที่มีความสุขกับการสอนและได้เห็นนักเรียนเติบโตอย่างมีความสุข
“ผมเปิดโรงเรียนนี้ด้วยความคิดว่าผมเป็นคนไม่ชอบไปโรงเรียน ทำไมการเรียนให้ประสบความสำเร็จถึงต้องยากและไม่มีความสุข ผมอยากให้ที่นี่เป็นโรงเรียนที่ทำให้เด็กมีความสุข และอยากมาโรงเรียนทุกวัน”
กว่า 3 ทศวรรษที่โรงเรียนอมาตยกุลเกิดขึ้นเพื่อทำให้เด็กอมาตเติบโตอย่างอย่างมีความสุข ด้วยแนวคิดแบบนีโอฮิวแมนนิส ที่เน้นการใช้คำพูดเชิงบวก สร้างสิ่งแวดล้อมที่ดี และสร้างความภาคภูมิใจในตัวเองให้เด็ก ๆ ผ่านพฤติกรรม 5 ข้อ คือ ยิ้ม ชม สบตา สัมผัส และสวัสดี
พื้นที่ความสุขของเด็กอมาตฯ
“ที่นี่ทุกคนเท่าเทียมกัน ไม่มีใครพิเศษกว่าใคร เราให้เด็กแต่งชุดไปรเวททุกวันอังคาร ไม่ต้องปักชื่อบนชุดนักเรียน หรือบางครั้งเราก็อนุโลมให้เด็กแต่งชุดพละมาเรียนได้ เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายของผู้ปกครอง เราสนับสนุนให้เด็กมีอิสระ มีความมั่นใจในตัวเอง กล้าที่จะสร้างสรรค์
“เรื่องวิชาการเราก็พยายามทำให้ง่าย นำมาเชื่อมโยงกับชีวิตประจำวัน มีการจัดกิจกรรมให้เด็กได้มีส่วนร่วมในเรื่องที่เขาสนใจ สอนวิชาชีวิตควบคู่ไปกับวิชาการ ฝึกให้เขาพูดเชิงบวกกับตัวเอง มีมายเซ็ตที่ดี ฝึกกินผัก กินอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำเยอะ ๆ ออกกำลังกาย ตั้งแต่เด็ก ค่อย ๆ สร้างนิสัยที่ดีให้กับเขา
“เด็กทุกคนมีคุณค่าในตัวเอง เราแค่ให้ในสิ่งที่ดีเท่าที่เราให้ได้ ไม่ได้ไปชี้นำอะไรเขา ให้เขาได้เป็นตัวเองอย่างมีความสุข เติมพลังบวก ใช้คำพูดและวิธีเชิงบวกกับเขาเยอะ ๆ รวมทั้งเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเขา เพื่อให้เขาเติบโตเป็นเวอร์ชันที่ดีที่สุดในแบบของตัวเอง”
บางครั้งเราเป็นครู บางครั้งเราก็เป็นศิษย์ เพราะชีวิตที่มีความหมายคือการได้แบ่งปันความสุข
“บางครั้งผมก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นครู เพราะบางเรื่องผมก็เรียนรู้จากลูกศิษย์ อย่างเมื่อก่อนผมเปิดฝาโยเกิร์ตไม่ถูกด้าน เปิดแล้วมันกระเด็นเลอะใส่ตัวเอง ลูกศิษย์ผมก็เป็นคนสอนวิธีที่ถูกต้องให้ เราแค่มาแลกเปลี่ยนกัน
“ครูที่ดีต้องเป็นแบบอย่างให้เด็กได้ ที่นี่อะไรที่ครูให้เด็กทำ ครูก็ต้องทำด้วย ถ้าให้เด็กวิ่ง ครูก็ต้องวิ่งด้วย ถ้าเราอยากให้เขาดื่มน้ำ เราก็พกขวดน้ำติดตัวไว้เสมอให้เขาเห็น เขากินอะไรเราก็กินแบบเขา ทำอะไรก็ทำไปด้วยกัน
“ทุกวันนี้ ผมจะ 72 แล้ว แต่ผมก็พูดกับตัวเองตลอดว่าผมอายุ 27 ผมไม่เคยคิดเลยว่าจะทำงานไปจนถึงเมื่อไร ผมเป็นครูมา 40 ปี และยังไม่เคยคิดจะหยุดทำ เพราะเห็นว่าสิ่งที่เราทำมันเป็นประโยชน์ แล้วมันดีขึ้นเรื่อย ๆ การได้เห็นเด็ก ๆ มีความสุข ก็ทำให้ผมมีความสุขไปด้วย ผมก็เลยอยากทำต่อไปเรื่อย ๆ”