กิจกรรมสุดพิเศษสำหรับเดือนพฤศจิกายนที่ไม่อยากให้ทุกคนพลาด !
กลับมาอีกครั้งกับกิจกรรม Friend Trip มนุษย์ต่างวัยเยี่ยมบ้านเพื่อน ครั้งที่ 3 “เดินเพลิน ๆ เจริญกรุง – ตลาดน้อย สัมผัสบรรยากาศในย่านเก่า เคล้าเรื่องราวชีวิตสุดคลาสสิกจากเคสมนุษย์ต่างวัย”
ครั้งนี้มนุษย์ต่างวัยอยากชวนเพื่อน ๆ ทุกช่วงวัยมาเดินเที่ยวเพลิน ๆ ไปด้วยกัน ครั้งนี้จะพาเพื่อนร่วมกิจกรรมไปสัมผัสบรรยากาศเก่า ๆ ของย่านบางรัก-ตลาดน้อย พร้อมพูดคุยประสบการณ์ชีวิตที่น่าสนใจกับเคสมนุษย์ต่างวัยตัวจริงเสียงจริง
ชุดพร้อม ! หมวกพร้อม ! รองเท้าพร้อม ! ฟิตร่างกายให้เต็มที่แล้วมาสนุกไปด้วยกัน ในวันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน 2567 เวลา 09.00-16.00 น. เดินทางไปพร้อมกันจากลานจอดรถอาคารไปรษณีย์กลาง บางรัก
อย่ารอช้า กิจกรรมนี้เรารับเพื่อนใหม่จำนวนจำกัด เพราะฉะนั้น รีบลงทะเบียนแล้วมาออกเดินทางไปด้วยกัน ปิดรับสมัครวันพฤหัสบดีที่ 21 พฤศจิกายน 2567
ค่าใช้จ่ายท่านละ 1,390 บาท
*อาหารกลางวัน 1 มื้อ ของหวาน 1 ชุด เครื่องดื่ม 1 แก้ว (ไม่รวมส่วนที่ผู้ร่วมกิจกรรมต้องการสั่งเพิ่มเติม) และค่าประกันการเดินทาง
วิธีการสมัคร
- กรอกใบสมัครเข้าร่วมกิจกรรมตอบคำถามให้ครบถ้วน
- ผู้ที่ได้ร่วมกิจกรรมจะได้รับอีเมลแจ้งรายละเอียดการชำระเงิน และการเตรียมตัวร่วมกิจกรรมกับเรา
- กรุณาโอนชำระเงินและส่งสลิปกลับมาทางอีเมลที่แจ้ง จึงจะถือว่าการยืนยันการเข้าร่วมกิจกรรมเสร็จสมบูรณ์
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อคุณน้ำหวาน 0654923663
ใครที่เป็นคอกาแฟห้ามพลาดไฮไลต์ของกิจกรรมนี้ มนุษย์ต่างวัยจะพาเพื่อน ๆ เดินลัดเลาะซอยตรอกศาลเจ้าโรงเกือก
ไปแวะดื่มกาแฟที่ร้าน Mother Roaster ร้านกาแฟสุดเก๋บนบ้านไม้เก่าในย่านตลาดน้อย
นอกจากได้แวะชมบรรยากาศและลิ้มรสเครื่องดื่มอร่อย ๆ แล้ว ทุกคนจะได้พบกับ “ป้าพิม” เพลินพิศ เรียนเมฆ บาริสต้าวัยเกษียณที่จะมาดริปกาแฟและพูดคุยกันแบบเจาะลึกพร้อมแลกเปลี่ยนแรงบันดาลใจอย่างใกล้ชิด บอกเลยว่าแฟนคลับป้าพิมห้ามพลาด !
แวะชมความงดงามของโบสถ์กาลหว่าร์ หรือ วัดแม่พระลูกประคำ
เป็นหนึ่งในโบสถ์สวยและเก่าแก่ของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกในกรุงเทพมหานคร มีลักษณะสถาปัตยกรรมการก่อสร้างแบบนีโอโกธิค สร้างขึ้นโดยคุณพ่อแดซาลส์ ชาวฝรั่งเศส ในปี พ.ศ. 2434 ปัจจุบันโบสถ์มีอายุมากกว่า 130 ปี ถือเป็นโบสถ์ที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ และยังได้ขึ้นทะเบียนอนุรักษ์เป็นโบราณสถานโดยกรมศิลปากรอีกด้วย
พาไปช็อปเครื่องประดับสุดพิเศษที่มีชิ้นเดียวในโลก
มนุษย์ต่างวัยพาเพื่อน ๆ แวะไปช็อปของฝากพร้อมพูดคุยกับกับคุณยาย “มาลัย ปรีชานิลชัยศรี” เจ้าของร้าน อิสเทิร์นแอนติค วัย 89 ปี ที่ยังคงมีความสุขกับการลุกมาเปิดร้านและนั่งรอลูกค้า เพราะลูกค้าทุกคนคือคุณค่าในชีวิตที่ทำให้ยายรู้ว่าต้องตื่นมาทำอะไร
อิสเทิร์นแอนติค ปัจจุบันเป็นร้านขายเครื่องประดับซึ่งทำมาจากชามเก่าที่แตกแล้ว นำมาเลือกส่วนที่มีลวดลายสวยที่สุดแล้วนำมาทำเป็นเครื่องประดับ ที่มีทั้ง สร้อย กำไล ต่างหู ฯลฯ ทำให้คุณยายบอกว่าเครื่องประดับแต่ละชิ้นมีลวดลายไม่เหมือนกันเลย
ย้อนวันวานไปสัมผัสกับบรรยากาศเก่า ๆ สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
เดินเพลิน ๆ ไปแวะชมพิพิธภัณฑ์ชาวบางกอก หรือ พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร เขตบางรัก
เพื่อน ๆ จะได้สัมผัสกับสิ่งของในความทรงจำ พร้อมฟังเรื่องราวจากไกด์อาสาเกี่ยวกับสภาพชีวิตความเป็นอยู่ของ ชาวบางกอกที่มีฐานะปานกลางในช่วงก่อนและหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งข้าวของ เครื่องใช้ที่นำมาจัดแสดงส่วนใหญ่จะเป็นของใช้ที่เจ้าของบ้านได้ใช้งานจริง ซึ่งสิ่งของบางชิ้นก็หาชมได้ยากแล้วในปัจจุบัน
รับรองว่ามาที่นี่แล้วจะได้รับความรู้สึกเหมือนกับกำลังเดินอยู่ในบ้านที่เราเห็นในละครย้อนยุคกันเลยทีเดียว ใครชอบเที่ยวและชอบเรียนรู้ประวัติศาสตร์ รับรองว่าถูกใจแน่นอน
ลิ้มรสไอศกรีมระดับตำนานสูตรโบราณกว่า 80 ปี
เดินไกลแค่ไหนก็ไม่หวั่น เพราะระหว่างทางเราจะพาเพื่อน ๆ ไปแวะชิมไอศกรีมระดับตำนานที่ร้าน ”ฮงฮวด” ร้านขายไอศกรีมโบราณ อายุกว่า 80 ปีที่อยู่คู่ย่านไปรษณีย์กลางบางรัก ถนนเจริญกรุง ตั้งแต่รุ่นอากง อาม่า ก่อนที่ปัจจุบันจะตกทอดมายังทายาทรุ่นที่ 3 ซึ่งยังคงรักษาเอกลักษณ์ของไอศกรีมสูตรประจำตระกูลเอาไว้อย่างครบถ้วน ตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบ การทำ และการค้าขาย
เมนูที่เป็นซิกเนเจอร์ของร้าน ไอศกรีมกะทิสดสอดไส้มะพร้าวอ่อน เผือก และขนุน วุ้นแดงโบราณหนึบหนับกำลังดี ได้พักกินไอศกรีมเย็น ๆ ฉ่ำ ๆ แบบนี้รับรองว่าหายเหนื่อยแน่นอน
นอกจากจะได้กินไอศกรีมอร่อย ๆ แล้ว เพื่อน ๆ จะได้ไปพูดคุยกับ ‘นิ้งหน่อง’ อรอนงค์ ตั้งนรกิจ หนึ่งในทายาทรุ่นที่ 3 ของร้านกับเส้นทางชีวิตในการทำธุรกิจที่ถึงจะไม่ง่าย แต่ก็ไม่เคยยอมแพ้
สัมผัสกลิ่นอายประวัติศาสตร์ของชาวตลาดน้อย
พากันเดินเพลิน ๆ ไปเที่ยวชม “พิพิธตลาดน้อย” จากโรงกลึงเก่าริมแม่น้ำเจ้าพระยา สู่พิพิธภัณฑ์ชุมชนที่บอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ เศรษฐกิจ และวิถีชีวิตของชาวตลาดน้อยที่เต็มไปด้วยความหลากหลายทางวัฒนธรรมความเชื่อจากผู้คนหลากหลายกลุ่ม ทั้งไทย โปรตุเกส ฝรั่งเศส ญวน และจีน
นอกจากนี้บริเวณรอบอาคารยังเป็นสวนเล็กๆ สำหรับพักผ่อนหย่อนใจ มีต้นไม้ใหญ่แผ่กิ่งก้านให้ร่มเงา และมุมริมน้ำที่มองเห็นพระอาทิตย์ตกยามเย็นได้สวยงาม อยากชวนกันมานั่งชิล ปล่อยใจจอย ๆ ทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ในทริปนี้
ลองชิมอาหารอินเดียที่ร้าน“ร้านอัล-ราฮามัน” (Al-Rahaman Restaurant)
สำหรับใครที่ยังไม่เคยกินอาหารอินเดียมาก่อน อยากชวนมาลองเปิดประสบการณ์กินอาหารอินเดียครั้งแรกที่นี่ ร้าน“อัล – ราฮามัน” (Al-Rahaman Restaurant) กับเมนูอาหารอินเดียของทางร้าน
ที่ได้รับการปรุงอย่างพิถีพิถันจากเชฟ อับดุล รูฟ (Abdur Rouf) เชฟชาวบังกลาเทศจากกรุงธากา (Dhaka) เมืองหลวงของประเทศบังกลาเทศ ผู้รับหน้าที่เป็นทั้งเชฟและเจ้าของร้าน
อาหารของ Al-Rahaman Restaurant เป็นการผสมผสานระหว่างอาหารของอินเดียตอนเหนือ ปากีสถาน บังกลาเทศ รวมถึงอาหรับเข้าด้วยกันรสชาติเข้มข้น เครื่องเทศหอมอบอวลแต่ไม่แรงจนเกินไป รับรองว่ามือใหม่หัดกินอาหารอินเดียสามารถรับประทานได้แน่นอน
แวะสักการะศาลเจ้าเก่าแก่เพื่อขอให้มีโชคลาภและความเป็นสิริมงคล
“ศาลเจ้าโรงเกือก หรือศาลเจ้าฮ้อนหว่องกุง” เป็นศาลเจ้าเก่าแก่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาของชาวจีนฮากกาหรือจีนแคะที่ตั้งถิ่นฐานร่วมกันมากับชาวจีนฮกเกี้ยนในย่านตลาดน้อยตั้งแต่สมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ และที่นี่มีเทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ยะ ที่ถือว่าเป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภจึงที่นิยมของคนในพื้นที่และบรรดานักท่องเที่ยวจากต่างถิ่นที่เดินทางมาสักการะองค์เทพเจ้า และเยี่ยมชมความงดงามของศาลเจ้าในฐานะของสถาปัตยกรรมซึ่งอยู่คู่กับย่านเก่าอย่างตลาดน้อยมาอย่างยาวนาน