บันทึกรอยยิ้มก่อนไอศกรีมละลาย ความสุขง่าย ๆ ที่ช่วยฮีลใจในวันยาก ๆ ของชีวิต

คุณจำได้ไหมว่ากินไอศกรีมครั้งล่าสุดเมื่อไหร่?

ถึงแม้ไอศกรีมจะเป็นของหวานที่หากินง่ายสำหรับใครหลายคน แต่สำหรับบางคน กลับจำไม่ได้แล้วว่ากินไอศกรีมครั้งล่าสุดเมื่อไหร่ และรสชาติของมันชวนให้ชื่นใจแค่ไหน

มนุษย์ต่างวัยได้มีโอกาสคุยกับ ‘ป้าณี’ นางมณี ทาเอี่ยม วัย 69 ปี ชาวบ้านในชุมชนมั่นคง 133 เขตบางบอน กรุงเทพฯ ที่อาศัยและใช้ชีวิตอยู่กับลูก หลาน และเหลนในบ้านหลังเล็ก ๆ รวมทั้งหมด 13 ชีวิต ด้วยความที่เป็นครอบครัวขนาดใหญ่ และมีรายได้ไม่ได้มั่นคงเท่าไรนัก การจะซื้อขนมหวานกินอย่างไอศกรีมสักถ้วยนั้นเป็นเรื่องที่ต้องคิดไม่ใช่น้อย เพราะถ้าจะต้องใช้เงินที่มีอยู่เพื่อซื้ออะไรสักอย่าง ป้าณีขอเลือกใช้จ่ายกับของที่จำเป็นมากกว่า เช่น ข้าวสาร น้ำมัน ไข่ไก่ หรือปลากระป๋อง ส่วนพวกพืชผักสวนครัวก็เก็บจากสวนที่คนในชุมชนช่วยกันปลูกไว้ จึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมป้าณีถึงจำรสชาติของไอศกรีมถ้วยล่าสุดไม่ได้แล้ว

ไอศกรีมในความทรงจำ

แม้ไอศกรีมจะเป็นของหวานสุดโปรดในวัยเด็กของใครหลายคน แต่ป้าณีในตอนนั้นกลับไม่เคยได้กินไอศกรีมเลยสักครั้ง ทำได้แค่มองเด็กคนอื่นกินแล้วนึกอยากลองชิมรสชาติบ้างอยู่ในใจ จนเติบโตเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นป้าณีถึงมีโอกาสได้สัมผัสกับรสชาติของไอศกรีมเป็นครั้งแรกในชีวิต

ทุกวันนี้ป้าณีในวัยเกือบ 70 ปี ก็ยังจดจำความรู้สึกชื่นใจจากการได้กินไอศกรีมสมัยวัยรุ่นได้ แม้ว่าจะห่างหายรสชาตินั้นมานานแล้ว ป้าณีบอกว่าใคร ๆ ก็ชอบไอศกรีม กินแล้วมันอร่อย ชื่นใจ กินแล้วมันไม่ “อกแห้ง” และเมื่อเราถามว่าแล้วป้าณีชอบกินไอศกรีมรสอะไร ป้ายิ้มแล้วตอบว่าป้าชอบกินไอศกรีมสีขาว ๆ ไม่รู้ว่ามันเป็นรสชาติอะไรเหมือนกัน รู้แต่ว่ามันอร่อย และจำได้ไม่เคยลืมเลือน ซึ่งเราอาจจะต้องลองเดาดูกันว่าไอศกรีมรสชาติโปรดของป้าณีนั้นจะเป็นรสอะไรกันแน่

ความหวานที่ช่วยฮีลใจ

แม้จะมีหน่วยงานต่าง ๆ ผลัดเปลี่ยนกันเข้ามาช่วยเหลือหรือบริจาคของให้กับชุมชนมั่นคง 133 อยู่บ่อย ๆ เพราะเป็นหนึ่งในชุมชนที่อยู่ในโครงการบ้านมั่นคงของเขตบางบอน กรุงเทพฯ ที่มีความเดือดร้อนในด้านที่อยู่อาศัย และมีชีวิตความเป็นอยู่ค่อนข้างลำบาก ทำให้ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งอาหารที่อร่อย และมีคุณค่าทางโภชนาการได้อย่างเพียงพอ แต่ป้าณีเล่าให้ฟังว่าส่วนใหญ่ของที่ได้รับจะเป็นพวกอาหารมื้อหลัก ขนมหวานพอมีบ้าง แต่ถ้าเป็นไอศกรีมจะไม่ค่อยได้กิน ครั้งล่าสุดที่ได้กินนั้นมันน่าจะผ่านมาเป็นหลายปีมากแล้ว

เนื่องใน ‘วันอาหารโลก’ หรือ ‘World Food Day’ ซึ่งตรงกับวันที่ 16 ตุลาคม ของทุกปี เนสท์เล่ จึงได้ร่วมมือกับมูลนิธิ SOS จัดกิจกรรมพิเศษ ‘ไอศกรีมแสนอร่อย’ เพื่อส่งมอบความสุขผ่านไอศกรีมสู่คนไทยกลุ่มเปราะบางมากกว่า 6.5 แสนคนทั่วประเทศ เพื่อให้คนในชุมชนได้มีโอกาสได้เข้าถึงของหวานอร่อย ๆ ที่ช่วยเติมเต็มความสุขเล็ก ๆ เพื่อสร้างสมดุลที่ดีทางจิตใจ แม้อาจเป็นเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ ก่อนไอศกรีมจะละลายแต่ก็ทำให้หลายคนยิ้มได้ในช่วงเวลายาก ๆ ของชีวิต

แม้จะเป็นช่วงสั้น ๆ ที่เราได้คุยกับป้าณี แต่เราก็เห็นว่าป้าณีแอบมีรอยยิ้มเล็ก ๆ ที่มุมปากขณะที่พูดถึงความรู้สึกตอนได้กินไอศกรีมทุกครั้ง แม้กระทั่งตอนที่ป้าณีกำลังนั่งกินไอศกรีมเนสท์เล่ ป้าณีก็ดูตั้งใจกินเป็นพิเศษ จนเราแยกไม่ออกว่าป้ากลัวไอศกรีมจะละลายหรือว่าไอศกรีมจากเนสท์เล่อร่อยจนป้าไม่อยากหยุดกินกันแน่

ไอศกรีมโคนเล็ก ๆ ไม่เพียงแค่เติมรอยยิ้มให้กับป้าณีเท่านั้น แต่ยังเติมเต็มความสุขให้กับอีกหลาย ๆ คนในชุมชนด้วย ถึงแม้ว่าวันนั้นจะมีฝนตกลงมาเป็นช่วง ๆ ตลอดทั้งบ่าย แต่ทุกคนก็ยังเดินกางร่มมาจากบ้าน ถือภาชนะต่าง ๆ มาใส่ไอศกรีมเนสท์เล่กลับบ้านพร้อมกับรอยยิ้ม และแววตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขอย่างแท้จริง

Credits

Author

ถึงจะต่างวัยแต่ก็
อยู่ร่วมกันอย่างเข้าใจ