อำนวย เชาว์เฟื่องกิจ หรือ โกนวย อายุ 74 ปี เจ้าของตำนานความอร่อยมากกว่า 30 ปี เขาเลือกเอาความหลงรักในการทำอาหารและการร้องเพลงมารวมไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ขายข้าวมันไก่เสร็จ ก็เริ่มเปิดคาราโอเกะ ร้องเพลงโชว์อยู่หน้าร้านจนกลายเป็นกิจวัตรที่ลูกค้าคุ้นตา
จุดเริ่มต้นของโกนวยข้าวมันไก่ 10 บาท
มนุษย์ต่างวัย : จุดเริ่มต้นของโกนวยข้าวมันไก่ 10 บาท มาจากอะไร?
โกนวย : “ผมขายข้าวมันไก่มา 30 กว่าปีแล้ว แต่ก่อนนี้ผมเป็นนักร้องและหลังจากนั้นก็ขายส้มตำ แต่พอระยะหลังๆ คนอีสานเริ่มเข้ามาขายเยอะ คู่แข่งเราก็เยอะขึ้น ผมก็เลยคิดว่า เราต้องหาทางขยับเพราะถ้าเราขายแบบที่คนอื่นขาย คนซื้อจะมีตัวเลือกมากขึ้น ในขณะที่เราเองก็มีโอกาสน้อยลงที่จะขายได้ ในตอนนั้นผมเห็นว่าข้าวมันไก่ยังไม่ค่อยมีคนขายเลยตัดสินใจว่าขายข้าวมันไก่ก็แล้วกัน แต่การจะขายอย่างเดียวคนอาจจะไม่จดจำก็เลยคิดว่างั้นขายราคาถูกแล้วกันแค่ 10 บาท เพราะก๋วยเตี๋ยว 5 บาทก็มีแล้ว อาหารตามสั่ง 10 บาทก็มีคนทำแล้ว แต่ข้าวมันไก่ราคาถูกขนาดนี้ไม่มีคนทำ คนก็จะจำเราได้และได้กินของดีและประหยัด เป็นที่มาของโกนวยข้าวมันไก่ 10 บาทมาจนถึงทุกวันนี้”
มนุษย์ต่างวัย : ทำไมโกนวยถึงกล้าขายราคา 10 บาท ในยุคเศรษฐกิจแบบนี้
โกนวย : “ผมขายราคา 10 บาทมาตั้งแต่ปี 2531 จนถึงปัจจุบันไม่เคยขึ้นราคา และก็จะไม่ขึ้นราคาด้วย เพราะอยากให้คนได้กินของถูกและดี หลังๆ ลูกค้าบางคนอยากกินเยอะหน่อยก็ขอให้ตักเพิ่มว่าเอา 30 บ้าง 40 บ้าง ผมก็เลยขยายไซส์ตามความต้องการของลูกค้า และสามารถเลือกทานได้ว่าจะทานเป็นข้าวมันไก่ หรือข้าวมันไก่ทอดก็ได้ ในราคาเดียวกันซึ่งถ้าถามว่า 10 บาท มีเยอะแค่ไหน สำหรับราคา 10 บาท ก็จะมีข้าว มีไก่ ซึ่งผมก็ไม่ได้ให้แค่ชิ้นเดียวเหมือนวิญญาณไก่ แต่ในจานก็จะมีไก่ 5-6 ชิ้น แถมฟรีน้ำซุปซี่โครงไก่ใส่เห็ดหอมฟรีไม่อั้น ไม่หวง บางคนขอข้าวเยอะหน่อยก็มี บางคนบอกขอไก่เยอะหน่อย ข้าวน้อยก็มี ที่สำคัญคือน้ำแข็งร้านเราก็ให้ฟรี น้ำจิ้มก็ไม่หวงใส่ได้เต็มที่เลย ไม่กลัวเปลือง”
มนุษย์ต่างวัย : 10 บาท คุณภาพ ก็ตามราคาด้วยหรือเปล่า?
โกนวย : “ถึงของร้านผมจะถูกแต่ผมให้ความสำคัญกับความซื่อสัตย์ต่อลูกค้ามาก เราจะทำเหมือนเรากินเองที่บ้าน เพราะฉะนั้นไม่มีคำว่าใช้ของไม่ดี คุณภาพจะไม่ลดไปตามราคา อย่างเช่น ข้าว ผมก็จะใช้ข้าวหอมมะลิ 100% ข้าวมันไก่ต้องนุ่มถึงจะอร่อย ซึ่งจะใช้ แต่ของตรามาบุญครองเท่านั้น สมัยก่อน 5 กิโลกรัม ราคา 50 บาท ตอนนี้ราคา 200 บาท ก็ยังใช้ยี่ห้อเดิมอยู่ ไม่มีลดคุณภาพ ทุกวันนี้ผมจะทำเองหมดทุกขั้นตอน เราทำอาหารให้คนอื่นกิน ถ้าสักแต่ว่าทำ คิดถึงแต่กำไร ผมคงอยู่ไม่ได้มาถึง 30 ปี”
มนุษย์ต่างวัย : ทำไมโกนวยเป็นแค่พ่อค้าข้าวมันไก่รถเข็นถึงต้องใส่ชุดเชฟ ?
โกนวย : “ถ้าคุณเขาร้านที่พ่อค้าแต่งตัวสกปรก คุณจะกินลงเหรอ ถ้าเป็นผม ผมคงคิดหนัก เพราะฉะนั้นเราขายอาหารเราต้องมีความรับผิดชอบต่อลูกค้าด้วย การที่ผมใส่ชุดเชฟ ใส่หมวกเก็บผม ผมว่ามันการันตีได้ว่า ร้านของผมสะอาด ใส่หมวกก็เพื่อป้องกันไม่ให้เส้นผมหล่นไปในอาหารด้วย หลักในการขาย ผมจะยึดในเรื่องความสะอาด อร่อย และซื่อสัตย์ ขายของต้องตรงไปตรงมา ถ้าทำแบบนี้ลูกค้าก็จะมาทานเอง”
มนุษย์ต่างวัย : ทำไมร้านข้าวมันไก่ต้องเปิดมินิคอนเสิร์ต ร้องคาราโอเกะให้ลูกค้าฟังด้วย?
โกนวย : “ผมชอบร้องเพลง และผมก็เป็นนักร้องเก่า พอดีที่บ้านก็มีเครื่องคาราโอเกะอยู่แล้ว ก็เลยคิดว่าไหน ๆ เราก็มีความสุขกับการร้องเพลง วันไหนไม่ได้ร้องก็หงุดหงิด เราก็ยกความสุขมาอยู่ในงานที่เรารักไปพร้อมๆ กัน ยิ่งอายุขนาดนี้การได้ร้องเพลงเหมือนทำให้หัวใจพองโตขึ้นมากเลย ผมร้องเพลงหลายแบบมาก ทั้งไทย สากล จีน คนที่มาฟังก็สนุกไปกับเรา บางครั้งก็ได้เพื่อนใหม่ อย่างเช่นคนรุ่นเดียวกัน เขาหาเพลงแบบที่ฟังสมัยก่อนไม่ได้ ก็จะมาได้ฟังจากร้านผมนี้แหละ (หัวเราะ) ทุกวันนี้พอสับไก่ใส่จานพร้อมเสิร์ฟ ผมก็มาจับไมค์ร้องเพลงต่อเลย จากร้องเพลงแค่ทุกวันศุกร์ ตอนนี้ย้ายร้านใหม่มาอยู่ตรงเจริญกรุง 49 ผมก็ร้องเพลงทุกวัน มาร้านโกนวยต้องได้ฟังเพลง”
มนุษย์ต่างวัย : อายุขนาดนี้คิดจะหยุดขายไหม
โกนวย : ผมก็จะขายไปเรื่อยๆ จนกว่าจะยกถังแก๊สไม่ไหว คนเราอายุมากแล้ว ถ้านั่งๆ นอนๆ อยู่บ้าน ไม่นานหรอกครับเดี๋ยวก็ไป แต่การที่ยังทำงาน ได้เจอคน ได้ร้องเพลง มันเหมือนการสร้างมิตรภาพใหม่ๆ ทุกวันให้คนวัย 70 ได้ยิ้มได้
ทุกวันนี้มีคนรู้จักเยอะแยะซึ่งจะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าผมไม่ซื่อสัตย์ การทำธุรกิจต้องไม่มีเล่ห์เหลี่ยมกับลูกค้า ขายของต้องขายด้วยใจ ใช้หัวใจ อย่าลดมาตรฐานลง ที่สำคัญคือเราต้องมีความสุขกับสิ่งที่ทำ เพราะถ้าเรามีความสุขมันจะส่งต่อไปถึงรสชาติอาหารที่กลมกล่อมด้วย
