“drawings_for my_grandchildren” อินสตาแกรมที่บันทึกความคิดถึงเป็นภาพวาด จากคุณปู่ชาวเกาหลี ถึงหลาน ๆ ในอีกซีกโลกหนึ่ง

ถ้าครอบครัวต้องแยกย้ายกันไปคนละทิศละทางอยู่ห่างกันข้ามทวีป ลูกหลาน ปู่ย่าตายายต้องห่างกันหลายร้อยพันไมล์ แค่เก็บความรักความคิดถึงไว้ในใจคงไม่พอ สมัยนี้จะโทรคุยกันทุกวันก็ยังไหว แต่มันยังไม่เพียงพอสำหรับปู่ย่าชาวเกาหลีคู่นี้

ชาน เจ ลี (Chan jae Lee) และมารินา (Marina) วัย 81 ปี คือคุณปู่-ย่าชาวเกาหลีที่อาศัยอยู่ในบราซิล การจากครอบครัวและบ้านเกิดที่เกาหลีเป็นเวลานานกลายเป็นความเปลี่ยวเหงาเดียวดาย แต่พวกเขาไม่ยอมให้ระยะทางเป็นอุปสรรค ทั้งคู่เลือกใช้ภาพวาดและเขียนข้อความสั้น ๆ เพื่อส่งต่อความรู้สึกและความปรารถนาดีให้กับหลาน ๆ ในต่างแดน เรื่องราวที่สวยงามอบอุ่นถูกถ่ายทอดผ่านอินสตาแกรมในชื่อ “drawings_for_my_grandchildren” ใน 3 ภาษา ทั้งเกาหลี อังกฤษ และโปรตุเกส

ปู่ชานอาศัยอยู่กับลูกสาวและหลาน ๆ ในประเทศบราซิล ในแต่ละวัน เขามีหน้าที่ขับรถไปรับอาร์เธอร์ (Arthur) และ อลัน (Allan) ที่โรงเรียนตอนเช้าและไปรับในตอนบ่าย เป็นอย่างนี้สม่ำเสมอตลอดหลายปี วันหนึ่งลูกสาวแจ้งข่าวแก่พ่อว่าเธอและครอบครัวต้องย้ายกลับประเทศเกาหลีและนั่นหมายความว่าเขาจะไม่ได้เจอหลาน ๆ อีกต่อไปแล้ว

“ผมพาเขาไปโรงเรียนทุกวันตอนเช้าและไปรับในตอนบ่าย ผมทำอย่างนี้อยู่ 5 ปี เราเลยได้ใกล้ชิดกัน แต่พอครอบครัวลูกสาวย้ายกลับไปเกาหลี อะไรที่เคยทำก็ไม่ได้ทำแล้ว มันเหมือนว่าวันทั้งวันไม่มีความหมายเลย” ปู่ชานกล่าว

นับตั้งแต่นั้นมา ชีวิตของปู่ชานก็เงียบเหงาและไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เขาเอาแต่นั่งอยู่หน้าทีวีและดูรายการช่องเกาหลีวนไปวนมา จิ ลี (Ji Lee) ดีไซน์เนอร์ในนิวยอร์ค ลูกชายอีกคนของพวกเขาเริ่มคิดว่าถ้าปล่อยพ่อให้เป็นแบบนี้ต่อไปคงไม่ดีแน่ เขาเริ่มมองหากิจกรรมให้พ่อทำ

“จิ เป็นห่วงพ่อมาก พอพ่อไม่มีอะไรทำแล้ว เขากังวลว่าพ่อจะเอาแต่นั่งจมอยู่หน้าทีวีด้วยความว่างเปล่าทั้งวัน แล้วเขาก็ขอให้ฉันหาโปสการ์ดที่พ่อเคยวาดส่งให้เขาตอนเด็ก ๆ เขาจำได้ว่าพ่อวาดรูปได้ดีจริง ๆ เขาคิดว่าพ่อน่าจะลองวาดมันดูอีกสักครั้ง” ย่ามารินากล่าว

จิอยากให้พ่อกลับมาวาดรูปอีกครั้งแล้วโพสต์มันลงในอินสตาแกรม แน่นอนว่าปู่ชานเกลียดไอเดียนี้มาก เขาไม่รู้ว่าจะทำอย่างนั้นไปทำไม เขาไม่เคยได้ยินคำว่าอินสตาแกรมมาก่อน ไม่เคยใช้แม้กระทั่งอีเมลหรือกูเกิล โทรศัพท์มือถือของเขามีไว้สำหรับโทรเข้าโทรออกเท่านั้น

หลังจากครอบครัวของลูกสาวย้ายกลับเกาหลีได้ไม่นาน แอสโตร (Astro) หลานชายคนที่ 3 ถือกำเนิดขึ้น ปู่ชานและย่ามารินาบินมาเยี่ยมที่นิวยอร์กและตกหลุมรักเจ้าตัวน้อยหมดใจ “โตขึ้นแอสโตรจะเป็นยังไงกันนะ? พ่อคงไม่อยู่จนได้เห็นเขาโตหรอก” ปู่ชานพูดขึ้นมากลางโต๊ะอาหารในมื้อค่ำวันหนึ่ง คำพูดที่แสนธรรมดานี้ทำให้ทุกคนสะเทือนใจ คิดไปถึงวันที่เสาหลักของบ้านไม่ได้อยู่บนโลกนี้อีกต่อไปแล้ว

แล้วไอเดียให้พ่อวาดรูปลงอินสตาแกรมของจิก็กลับมาอีกครั้ง เขาเสนอให้พ่อลองวาดรูปหลาน ๆ ทั้ง 3 คนแล้วใช้ชื่อว่า “Drawings For My Grandchildren”

ด้วยความที่เขาอยากหาทางเชื่อมต่อกับหลาน ๆ ครั้งนี้ปู่ชานยอมทำตาม เขาเริ่มลงมือวาดภาพง่าย ๆ ทุกวัน การเริ่มต้นก้าวเล็ก ๆ นี้ทำให้เขากลับมาหลงใหลการวาดภาพอีกครั้งในปี 2558 ทั้งรูปของเล่นที่หลาน ๆ ทิ้งไว้ที่บราซิล ภาพงานวันเกิดของอลัน และภาพของแอสโตรในอนาคตที่เขาจินตนาการถึง

ต้นไม้ต้นเดิมที่ริมหน้าต่างเปลี่ยนสีไปทุกฤดูกาล เขาเฝ้ามองและถ่ายทอดออกมาหลายต่อหลายครั้งด้วยสีสันที่แตกต่างกัน ภาพสัตว์ เรื่องราวต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน รวมถึงภาพวิวทิวทัศน์ของประเทศเกาหลีที่เขาคิดถึง ถูกวาดออกมาในแบบที่ต่างจากเทคนิคและสไตล์การวาดรูปทั่วไป รายละเอียดเล็กน้อยในภาพวาดสะท้อนให้เห็นสายตาของชายชราที่มองเห็นสิ่งเล็ก ๆ ในแต่ละช่วงชีวิตที่สวยงามอยู่เสมอ

จิเริ่มสอนปู่ชานใช้อินสตาแกรม แม้มันจะยากลำบากและทำให้ปู่ชานหงุดหงิดบ่อย ๆ แต่เขาก็ค่อย ๆ พยายามเรียนรู้มันอย่างช้า ๆ แต่สม่ำเสมอ จนตอนนี้ในอินสตราแกรมของเขาเต็มไปด้วยภาพวาดที่ประกอบข้อความสั้น ๆ แสนอบอุ่น เป็นภาพวาดของความทรงจำและข้อความที่สองปู่ย่าที่อยากถ่ายทอดออกไปให้ถึงหลาน ๆ ที่อยู่อีกซีกโลกหนึ่ง

หลาย ๆ ข้อความและภาพวาดของปู่ย่าทั้งสองถูกโพสต์ลงอินสตาแกรมเกือบทุกวัน ทุกถ้อยคำล้วนแสดงถึงความรักความคิดถึงหลานอย่างสุด ๆ ถึงแม้ตัวจะอยู่ไกลหลายพันไมล์แล้วก็ตาม แต่ไม่ว่าจะเดินไปทางไหน ก็เห็นแต่หน้าหลาน ๆ ไปเสียหมด เหมือนที่บรรยายไว้ในภาพวาดหนึ่งว่า

“ทุกเช้าหลังกลับจากยิม ฉันจะเห็นเด็ก ๆ จากศูนย์เด็กเล็กเดินอยู่ด้วยทุกเช้า

“จับมือกันไว้นะ”- คุณครูบอกในขณะที่เด็ก ๆ กำลังพูดคุยกัน

พวกเขาน่ารักจริง ๆ และสุดท้ายฉันก็เผลอเดินตามพวกเขาไปโดยไม่รู้ตัว

สำหรับฉัน เด็กชายมัธยมต้นทุกคนคืออาร์เธอร์กับอลัน เด็กเล็ก ๆ ทุกคนที่ศูนย์รับเลี้ยงเด็กคือแอสโตร

และอีกไม่นาน ทารกแบเบาะทุกคนจะคือ ลัว!”

“พอพ่อเขียนภาพเสร็จ แม่จะเขียนเรื่องราวประกอบภาพแล้วส่งมาให้ผมเป็นภาษาเกาหลี ผมมีหน้าที่แปลเป็นภาษาอังกฤษ ส่วนน้องสาวจะแปลเป็นภาษาโปรตุเกส เพราะโปรเจกต์นี้ของพ่อแท้ ๆ ที่ทำให้ครอบครัวเราได้คุยกันทุกวัน” จิเล่า

ตอนนี้อินสตาแกรมของปู่ชานและย่ามารินาเต็มไปด้วยภาพวาดกว่า 1,300 ภาพ และมีผู้ติดตามเกือบ 4 แสนคนเปรียบเสมือนบันทึกประจำวันจากคนรุ่นก่อนที่ส่งต่อถึงลูกหลาน ภาพวาดสีน้ำแสนอบอุ่นและเรื่องราวที่แสนบริสุทธิ์ชวนให้ทุกคนทั่วโลกกลับไปคิดถึงคำว่าครอบครัวอีกครั้งถูกตีพิมพ์เป็นหนังสือในชื่อ “Looking Back Life was Beautiful”

“ผมมองการวาดรูปเป็นแค่ส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน ไม่ได้มองว่าเป็นความท้าทายหรือเป้าหมายที่ต้องไปให้ถึง ผมเพียงแค่มีชีวิตไปแต่ละวัน และทำในสิ่งที่รัก แล้วตั้งใจทำมันให้มากเท่าที่จะมากได้เท่านั้นเอง” ปู่ชานกล่าว

ในวันที่ครอบครัวต้องห่างไกลกันข้ามทวีป เราได้เห็นครอบครัวยังคงส่งต่อความรักความปรารถนาดีต่อกันในวิถีที่ทุกคนต่างถนัด เราได้เห็นความช่วยเหลือของลูก ๆ ที่พาพ่อแม่ก้าวข้ามอุปสรรคของระยะทางและเทคโนโลยีเพื่อพาทุกคนในครอบครัวกลับมาเชื่อมกันได้อีกครั้ง และเราได้เห็นสายตาของผู้ใหญ่ที่ผ่านโลกมากมายที่มองเห็นความสุข ความทุกข์เฉกเช่นคนทั่วไป แต่ทว่ายังคงมองเห็นความสวยงามในทุกช่วงเวลาของชีวิต

วันนี้แอสโตรเริ่มวิ่งได้แล้ว อาร์เธอร์และอลันก็ไม่ใช่เด็กชายตัวเล็ก ๆ อีกต่อไป แถมยังมีลัว หลานวัยแบเบาะเพิ่มขึ้นมาแล้ว แต่ปู่ชานก็ยังคงวาดภาพทุกวัน ย่ามารินาก็ยังคงเขียนเรื่องราวสั้น ๆ ที่เป็นเหมือนบันทึกประจำวันไม่เคยขาด และคงไม่มีอะไรจะหยุดยั้งพวกเขาได้อีกต่อไป

ขอบคุณภาพจาก

ข้อมูลอ้างอิง

Credits

Author

ถึงจะต่างวัยแต่ก็
อยู่ร่วมกันอย่างเข้าใจ