Customize Consent Preferences

We use cookies to help you navigate efficiently and perform certain functions. You will find detailed information about all cookies under each consent category below.

The cookies that are categorized as "Necessary" are stored on your browser as they are essential for enabling the basic functionalities of the site. ... 

Always Active

Necessary cookies are required to enable the basic features of this site, such as providing secure log-in or adjusting your consent preferences. These cookies do not store any personally identifiable data.

Functional cookies help perform certain functionalities like sharing the content of the website on social media platforms, collecting feedback, and other third-party features.

Analytical cookies are used to understand how visitors interact with the website. These cookies help provide information on metrics such as the number of visitors, bounce rate, traffic source, etc.

Performance cookies are used to understand and analyze the key performance indexes of the website which helps in delivering a better user experience for the visitors.

Advertisement cookies are used to provide visitors with customized advertisements based on the pages you visited previously and to analyze the effectiveness of the ad campaigns.

เราโตมาในประวัติศาสตร์ที่ต่างกัน แม่ไม่ได้ผิดที่เชื่อแบบนั้น และเราก็ไม่ได้ผิดที่เชื่ออีกแบบ การเมืองไม่ควรเป็นต้นเหตุที่ทำให้ความสัมพันธ์ในครอบครัวสั่นคลอน

“เราอายุ 22 ปี ส่วนแม่อายุ 46 ปี เราสองคนสนิทกันมากและพูดคุยกันได้ทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเพื่อน การมีแฟน การเลือกคณะที่เรียน หรือความสนใจของเรา แม้กระทั่งเรื่องเซ็กส์ที่หลายครอบครัวมักไม่พูดหรือเปิดเผยกัน แต่ครอบครัวเราสามารถคุยกันได้เป็นปกติ เสมือนแม่คือที่ปรึกษาทุกเรื่องในชีวิตเรา ซึ่งเขาก็เคารพสิทธิ์ในการตัดสินใจในทางเดินที่เราจะเลือก เพราะมองว่าเราโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว แต่พอมาถึงเรื่องการเมือง เราคุยเรื่องนี้กับแม่ เล่าให้ฟังถึงความคิดและมุมมองของเรา สิ่งที่เกิดขึ้นคือแม่จะเงียบ และหลายครั้งมองว่าเราเป็นเด็ก มีมุมมองแบบเด็กๆ ซึ่งตรงกันข้ามกับเรื่องอื่นๆ ที่แม่มองว่าเราโตเป็นผู้ใหญ่เพียงพอ

“การพูดคุยเรื่องการเมืองในบ้านของเรากับแม่เริ่มปะทุหนักขึ้น เพราะเราพยายามเปลี่ยนความคิดของแม่ให้เห็นด้วยกับเรา ตอนนั้นเราคิดว่าการเปิดใจคุยกันกับแม่จะทำให้แม่รู้ข้อมูลในแบบที่เรารู้และจะสนับสนุนในสิ่งที่เราเชื่อ เรายกทุกอย่างที่เรารู้ ข้อมูลทุกอย่างที่เรามีมาพูดกับแม่ เพื่อให้แม่เปลี่ยนความคิด แต่ปรากฏว่าแทนที่จะเป็นไปในทางที่เราวางไว้ กลับตรงกันข้ามอย่างสุดขั้ว เพราะมันทำให้ความสัมพันธ์ของเรากับแม่สั่นคลอนและทะเลาะกันหนักมากจนแม่ร้องไห้และเสียใจในการกระทำของเรา เสียใจที่เราตัดสินว่าความเชื่อของเขาไม่ถูกต้อง

“พอใจเย็นและกลับมานั่งทบทวนอีกครั้ง ทำให้เรารู้ว่าเหตุการณ์บานปลายครั้งนี้เริ่มมาจากเราเองที่พยายามจะเปลี่ยนสิ่งที่เขาเชื่อและศรัทธามาโดยตลอด เราอยู่ในประวัติศาสตร์และสังคมที่ต่างกัน แม่ไม่ได้ผิดที่เชื่อแบบนั้น และเราก็ไม่ได้ผิดที่มีความเชื่ออีกแบบ

“การเมืองไม่ควรจะเป็นเรื่องที่ทำให้ความสัมพันธ์ในครอบครัวต้องสั่นคลอน เราตัดสินใจขอโทษแม่และอธิบายเหตุผลในจุดยืนของเราอีกครั้ง โดยปราศจากอารมณ์และหลีกเลี่ยงพูดเรื่องที่อ่อนไหว ทำให้แม่และเราเข้าใจเหตุผลของกันและกันมากขึ้น

“หลังจากนั้นเรากับแม่ก็ยังคุยเรื่องการเมืองกันได้ แต่สิ่งที่เราคุยจะเป็นการอัปเดตข้อมูลข่าวสาร สถานการณ์ปัจจุบันกันมากกว่าที่จะไปลงลึกในความเชื่อของแต่ละฝั่ง และเรายังคงแสดงจุดยืนบนโซเชียลในพื้นที่ของเราแบบเดิมได้ แต่ทุกครั้งที่โพสต์ก็ต้องคิดให้มากขึ้นเพื่อให้ตัวเราเองและแม่สบายใจ เพราะท้ายที่สุดครอบครัวควรเป็นพื้นที่ที่เราสามารถคุยกันได้ทุกเรื่อง แม้เราจะมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน”

นักศึกษา อายุ 22 ปี 

มนุษย์ต่างวัยชวนคุยกับคนหลากหลาย ถึงมุมมองการอยู่ร่วมกันท่ามกลางความขัดแย้งทางการเมือง

Credits

Authors

  • นันท์นภัส โอดคง

    Creativeครีเอทีฟตัวกลม อารมณ์ดี รักภูเขา หลงรัก จ.เชียงใหม่ ชอบการเดินทาง enjoy กับการกินอาหารท้องถิ่น สนุกกับการรู้จักคนใหม่ๆ อนาคตที่ฝันไว้สูงสุดคืออยากเป็นคนที่ถูกหวย

  • สุกฤตา ณ เชียงใหม่

    Author & Drawรับบทเป็นกราฟิกสาววัยเบญจเพส เป็นคนชอบศิลปะ จับปากกา แต่พอโตขึ้นมาเพิ่งจะรู้ว่าชอบเธอ ฮิ้ววว :)

ถึงจะต่างวัยแต่ก็
อยู่ร่วมกันอย่างเข้าใจ