คอมมิวนิตี้ Nuns & Nones เมื่อนักบวชและคนไม่มีศาสนามาอยู่ร่วมกัน

ปรากฏการณ์คนรุ่นใหม่ไม่มีศาสนาเป็นกระแสที่ดูจะมีแนวโน้มเติบโตขึ้นเรื่อยๆ แต่ท่ามกลางการถกเถียงระหว่างคนต่างรุ่น ว่าศาสนายังคงมีความสำคัญแค่ไหนในชีวิตปัจจุบัน หรือ ศาสนาจะมีบทบาทหน้าที่ยังไงในโลกทัศน์ของคนหนุ่มสาว มนุษย์ต่างวัยขอชวนทุกคนมารู้จัก ‘Nuns & Nones’ (นันส์ แอนด์ นันส์) คอมมิวนิตี้ของกลุ่มคนสองขั้วที่ใครหลายคนไม่น่าจะเชื่อว่าพวกเขาสามารถเข้ากันได้แน่ๆ

นั่นคือ นักกิจกรรมเจนวายไร้ศาสนา’ กับ แม่ชีคาทอลิกรุ่นเบบี้บูมเมอร์’ นั่นเอง

คอมมิวนิตี้แห่งนี้ เป็นพื้นที่ให้บรรดานักกิจกรรมเจนวายไร้ศาสนาที่ต้องการสำรวจจิตวิญญาณของตัวเอง ได้มาพูดคุยแลกเปลี่ยนมุมมองกับแม่ชีคาทอลิก ผู้เป็นดั่ง ‘รุ่นพี่’ ในการอุทิศชีวิตเพื่อสังคมของพวกเขา

พวกเขาอยากรู้ว่า พวกเขาควรเยียวยาจิตใจตัวเองอย่างไร และมีแนวทางในการใช้ชีวิตเพื่อสังคมอย่างไรดี โดยแม่ชีคาทอลิกเหล่านี้อาจมีคำตอบที่น่าสนใจให้พวกเขาก็เป็นได้

‘ศาสนา’ สิ่งที่ค่อยๆ เลือนหายไปในโลกยุคใหม่

จากการสำรวจในประเทศสหรัฐอเมริกาพบว่า กว่า 29% ของประชากรเจนวาย (Gen Y) ในประเทศสหรัฐอเมริกาไม่มีศาสนา ขณะที่ ประชากรเจนเอ็กซ์ (Gen X) ที่ไม่มีศาสนาคิดเป็น 23% และในกลุ่มประชากรรุ่นเบบี้บูมเมอร์ (Baby Boomer) คนที่ไม่นับถือศาสนาคิดเป็น 18% เท่านั้น

กระแสการไม่นับถือศาสนานี้ยังมีแนวโน้มจะดำเนินต่อไป เพราะกลุ่มประชากรยุค “เจนซี” (Gen Z) ซึ่งเป็นประชากรที่บรรลุนิติภาวะรุ่นล่าสุดก็มีอัตราส่วนผู้ไร้ศาสนาไม่แพ้รุ่นพี่ของพวกเขา โดย Survey Center on American Life พบว่า กว่า 34% ของประชากรเจนซีไม่มีศาสนาใดๆ และมีแนวโน้มที่จะไม่เชื่อหรือตั้งข้อสงสัยในการมีอยู่ของ ‘พระเจ้า’ มากกว่าคนรุ่นก่อนหน้าอีกด้วย

นอกจากนี้ ผู้คนยังเริ่มตั้งคำถามต่ออิทธิพลของศาสนาในประเด็นทางสังคมหลายประเด็น อย่างสมรสเท่าเทียม ความหลากหลายทางเพศ และการทำแท้ง ซึ่งคนรุ่นใหม่กำลังให้ความสนใจเรื่องเหล่านี้เป็นอย่างยิ่ง จนดูไม่น่าแปลกใจเลยที่พวกเขาจะตั้งคำถามเกี่ยวกับบทบาทและความถูกต้องของศาสนา ไปจนถึงความสำคัญของศาสนาต่อชีวิตในโลกในยุคปัจจุบัน

แต่เชื่อหรือไม่ว่า ท่ามกลางกระแสการตั้งคำถามต่อศาสนา และการไม่มีศาสนาที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นั้น ประชากรยุคใหม่ก็ไม่ได้หันหลังให้ศาสนาไปหมดเสียทีเดียว

Nuns & Nones เมื่อพวกเราแตกต่างที่ช่วงวัยและความเชื่อ หาใช่ตัวตน

Nuns & Nones ( นันส์ แอนด์ นันส์ ) คือชุมชนที่ก่อตั้งโดยอดัม โฮโรวิตซ์ (Adam Horowitz) วัย 32 ปี และแม่ชีจูดี้ คาร์ล (Judy Carle) วัย 79 ปีจากคณะแม่ชีแห่งความเมตตา (Sisters of Mercy) ในเขตเมืองซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา

ชุมชนนี้ก่อตั้งขึ้นเพื่อให้บรรดานักกิจกรรมเจนวายที่ไม่มีศาสนา ได้มาพบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนมุมมองชีวิตกับแม่ชีคาทอลิกสูงวัยจากคณะแม่ชีแห่งความเมตตา โดยคำว่า ‘Nuns’ มีความหมายว่า “แม่ชี” ส่วน ‘Nones’ ในภาษาอังกฤษที่แปลว่า “ไม่มี” หมายถึงกลุ่มคนไม่นับถือศาสนา ที่จะตอบ ‘none’ ( ไม่มี ) เมื่อพวกเขาต้องกรอกศาสนาของตนเองในเอกสารต่างๆ นั่นเอง

ชุมชนนี้เกิดขึ้นได้เพราะคุณโฮโรวิตซ์มองเห็นว่า บรรดาแม่ชีจากคณะแม่ชีแห่งความเมตตานี้มีวิถีชีวิตที่ไม่แตกต่างจากพวกเขาเลย

อ่านถึงตรงนี้แล้วหลายคนอาจจะงงว่า นักกิจกรรมเจนวายที่ไม่นับถือศาสนาและน่าจะหัวก้าวหน้ามากเหล่านี้ จะมีความคล้ายคลึงกับบรรดาแม่ชีรุ่นเบบี้บูมเมอร์ที่อุทิศตนให้กับสถาบันที่อนุรักษ์นิยมมากๆ อย่างโบสถ์คาทอลิกได้อย่างไร ?

ที่เป็นเช่นนั้นเพราะกิจกรรมหลายๆ อย่างที่คณะแม่ชีคาทอลิกหลายแห่งทำ   เช่น การบริจาคช่วยเหลือผู้ยากไร้ การให้บริการทางการแพทย์และการศึกษาในราคาย่อมเยาผ่านโรงพยาบาลและโรงเรียนในเครือคาทอลิก รวมไปถึงการเป็นกระบอกเสียงในประเด็นต่างๆ ก็ล้วนเป็นไปเพื่อสังคม ไม่ต่างอะไรจากสิ่งที่พวกเขาทำ นี่จึงอาจเป็นความคล้ายคลึงกันที่ทำให้นักกิจกรรมเจนวายเหล่านี้อดไม่ได้ที่จะขอแลกเปลี่ยนมุมมองชีวิตและขอคู่มือในการอุทิศตนเพื่อเป้าหมายของพวกเขาเสียหน่อย

โดย ‘Nuns & Nones’ เริ่มต้นจากการพบปะสังสรรค์เป็นเวลา 2 วัน ให้นักกิจกรรมไร้ศาสนาและแม่ชีคาทอลิกได้มาพูดคุยและกินข้าวร่วมกัน แต่แล้วการพบปะเช่นนี้ก็ค่อยๆ ได้รับความสนใจ และเริ่มขยายตัวจากจุดเริ่มต้นในเมืองซานฟรานซิสโก ไปสู่เมืองอื่นๆ ในสหรัฐฯ ทำให้เกิดการพบปะสังสรรค์ระหว่างนักกิจกรรมไร้ศาสนาและแม่ชีคาทอลิกเช่นนี้ในเมืองอื่นๆ ก่อนนำไปสู่การทดลอง ‘ อยู่อาศัยร่วมกัน ’ ที่นักกิจกรรมไร้ศาสนาจะย้ายเข้ามาอยู่กับแม่ชีคาทอลิกเป็นเวลา 6 เดือน

จิตวิญญาณจะพาเรามาพบกัน

อะไรที่นักกิจกรรมเจนวายไร้ศาสนาอยากรู้จากบรรดาแม่ชีคาทอลิกรุ่นบูมเมอร์ ?

บรรดาแม่ชีจากคณะแม่ชีแห่งความเมตตาก็สงสัยเรื่องนี้เช่นกัน ในวันที่บรรดานักกิจกรรมเจนวายย้ายเข้ามาอยู่กับพวกเธอในคอนแวนต์ โดยนักกิจกรรมกลุ่มนี้ก็มีทั้งชายและหญิง และพวกเขาก็ยังทำงานประจำด้านการขับเคลื่อนสังคมตลอดเวลา 6 เดือนที่อาศัยอยู่ในคอนแวนต์

สิ่งแรกที่เหล่าแม่ชีพบว่าบรรดานักกิจกรรมให้ความสนใจที่สุดคือ คำปฏิญาณจากคำแนะนำตามพระวรสาร (Evangelical Counsels) อันว่าด้วย ความบริสุทธิ์ (chastity)” “ความยากจน (poverty)” และ ความนอบน้อมเชื่อฟัง (obedience)”

ทั้งสามอย่างคือคำปฏิญาณที่นักพรตหญิงมักต้องปฏิญาณก่อนเริ่มต้นชีวิตใหม่ในฐานะนักพรตของนิกายโรมันคาทอลิกอย่างเต็มตัว โดยคำปฏิญาณว่าด้วย ความบริสุทธิ์” หมายถึง การถือพรหมจรรย์ ละเว้นจากการแต่งงาน ความสัมพันธ์แบบรักใคร่ และความสัมพันธ์ทางเพศทั้งปวง ความยากจน” หมายถึงการใช้ชีวิตอย่างสมถะบนพื้นฐานของความจำเป็นมากกว่าความต้องการ และ ความนอบน้อมเชื่อฟัง” หมายถึงการรับฟังและตอบสนองต่อความประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้า

แม่ชีพบว่า ทั้งสามสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ดึงดูดบรรดานักกิจกรรมเจนวาย ไม่ว่าชายหรือหญิง อย่างน่าเหลือเชื่อ

พวกเขาอยากรู้ว่า อะไรคือเคล็ดลับในการปฏิบัติหน้าที่ของเรา

แม่ชีแพ็ตซี ฮาร์นี หนึ่งในแม่ชีจากคณะแม่ชีแห่งความเมตตาที่เข้าร่วมกิจกรรมให้สัมภาษณ์กับนิวยอร์ก ไทมส์

นักกิจกรรมเจนวายเหลายคนเลยที่บอกว่า พวกเขากำลังมองหาแนวทาง กำลังมองหาวิธีปฏิบัติตนในการทำงานเพื่อชุมชนของพวกเขา” แม่ชีจูดี้ คาร์ลกล่าวเสริมในการสัมภาษณ์ครั้งเดียวกัน

หลังจากนั้นบรรดาแม่ชีจึงค่อยๆ พบว่า สิ่งที่บรรดานักกิจกรรมเจนวายกำลังตามหาคือ เข็มทิศสำหรับชีวิตและการทำงานเพื่อสังคมของพวกเขานั่นเอง

คนรุ่นฉันมีความกังวลและมีคำถามเยอะมากว่า เราจะแบ่งปันทรัพยากรกันยังไง เราจะมีความสัมพันธ์กับผู้อื่นโดยที่เราไม่ใช้อำนาจ หรือไม่ทำให้อีกฝ่ายเป็นแค่วัตถุได้ยังไง … เราจะตัดสินใจโดยไม่มีอัตตาและรับฟังผู้อื่นอย่างลึกซึ้งได้อย่างไร ?” ซาราห์ เจน แบรดลีย์ หนึ่งในนักกิจกรรมเจนวายที่เข้าร่วมกิจกรรมของ Nuns and Nones กล่าวในการสัมภาษณ์กับ เฟธ แอนด์ ลีดเดอร์ชิป (Faith and Leadership) ศูนย์การเรียนรู้สำหรับผู้นำชุมชนชาวคริสต์จากวิทยาลัยศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยดุ๊ก (Duke University) และเธอก็ไม่ใช่คนเดียวที่ถามคำถามนี้

คนรุ่นฉันหลายๆ คนพยายามที่จะเยียวยาโลกใบนี้ตามวิถีทางของตนเอง … ในขณะเดียวกัน 40% ของคนรุ่นเราไม่ได้ผูกพันกับศาสนาไหนเลย ซึ่งถ้าไม่มีทางเลือกอื่น ฉันและเพื่อนๆ ก็อาจจะขาดโอกาสในการสำรวจตัวเองในทางจิตวิญญาณและไม่สามารถเยียวยาตัวเองได้ ซึ่งสิ่งนี้ถือเป็นพื้นฐานที่สำคัญในงานที่พวกเรากำลังทำกัน ” บริตทานี โคเทล อีกหนึ่งนักกิจกรรมในวัย 20 ปลายที่เข้าร่วมกิจกรรมของ Nuns and Nones กล่าวในการสัมภาษณ์เดียวกัน

และพวกเขาก็พบคำตอบของคำถามเหล่านี้ในคำปฏิญาณและดำรงตนของเหล่าแม่ชีคาทอลิก

ฉันเริ่มเข้าใจแล้วว่า การถือพรหมจรรย์ไม่ได้เป็นแค่เรื่องของการไม่แต่งงานเท่านั้น แต่ยังเป็นเรื่องของการมีความสัมพันธ์ที่ใช่ด้วย … เราต้องเข้าใจว่าการเคารพความเป็นมนุษย์ของคนอื่นคืออะไร และการเคารพความเป็นมนุษย์ของตัวเองคืออะไร และเราควรเป็นตัวกลางของความรักมากกว่าความต้องการของตัวเอง ” แบรดลีย์กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับนิวยอร์ก ไทมส์

คำปฏิญาณสำหรับการนอบน้อมและเชื่อฟังอาจดูเหมือนการรับคำสั่งเฉยๆ แต่บรรดาแม่ชีช่วยให้ฉันเห็นว่ามันเป็นการเตรียมหัวใจของคุณให้พร้อมสำหรับบทสนทนา และการรับฟังอย่างลึกซึ้งเพื่อหาความจริงมากกว่า

และหากเรามองไปยังคำปฏิญาณของ “ความยากจน” เราอาจจะเห็นได้ว่า การใช้ชีวิตอย่างสมถะที่ตั้งอยู่บน “ความจำเป็น” มากกว่า “ความต้องการ” นั้น ไม่ต่างจากกระแสเรียกร้องให้พวกเราหันหลังให้ ‘ลัทธิบริโภคนิยม’ หรือ ‘ฟาสต์แฟชั่น’ (Fast-Fashion) ที่พวกเราอาจได้ยินกันบ่อยๆ ว่ากำลังทำลายสิ่งแวดล้อมเพียงใด

พวกเขาพบภาพสะท้อนของชีวิตที่ตัวเองต้องการอยู่ในคำปฏิญาณตนที่สืบทอดกันมาของเหล่าแม่ชี และในเวลาเดียวกันบรรดาแม่ชีก็ได้เห็นภาพความหวังที่สดใสของตัวเองในหมู่คนรุ่นใหม่เช่นกัน

จำนวนแม่ชีคาทอลิกกำลังลดลงอย่างรวดเร็วในสหรัฐฯ

ในปี 2562 มีแม่ชีคาทอลิกในสหรัฐอเมริกา 44,000 คน ซึ่งลดลงมากกว่าหนึ่งแสนคน จากจำนวน 161,000 คนเมื่อกว่า 50 ปีก่อน อีกทั้งในปัจจุบัน จำนวนผู้หญิงที่บวชเป็นแม่ชีก็น้อยลงมาก ทำให้จำนวนแม่ชีที่อายุมากกว่า 90 ปีในสหรัฐมีมากกว่าแม่ชีที่อายุน้อยกว่า 60 ปีเสียอีก

การมาถึงของเหล่านักกิจกรรมเจนวายไร้ศาสนาเหล่านี้ ช่วยให้บรรดาแม่ชีได้เห็นแนวทางการใช้ชีวิตของพวกเขาได้รับการสืบทอดต่อไป โดยเฉพาะในยุคสมัยที่สิ่งที่พวกเขาสร้างขึ้นมาอย่างโรงพยาบาลและโรงเรียนถูกสืบทอดโดยคนธรรมดามากขึ้นเรื่อยๆ

“บรรดาแม่ชีห่วงว่าใครจะเป็นคนรับช่วงต่อจากพวกเขา มากกว่าสถาบันของพวกเขาจะอยู่รอดหรือเปล่า ” โซลี ซัลกาโด นักข่าวที่ค่อยติดตามกิจกรรมของ Nuns and Nones กล่าว “ สำหรับบรรดาแม่ชี เหล่าคนไม่มีศาสนากลุ่มนี้อาจเป็นผู้สืบทอดของพวกเขา”

พวกเราสามารถเห็นได้ว่า แม้พวกเขาจะเป็นคนต่างขั้ว เป็นเบบี้บูมเมอร์กับเจนวาย เป็นแม่ชีกับคนไร้ศาสนา พวกเขาก็สามารถช่วยกันค้นพบทางออกสำหรับปัญหาของกันและกันได้อย่างเหลือเชื่อ

บรรดาแม่ชีได้พบคนที่จะมาสืบทอดวิถีการทำงานและใช้ชีวิตของพวกเขาในหมู่นักกิจกรรมเจนวาย และจากคำพูดของนักกิจกรรมเจนวายเหล่านี้ เราจะเห็นได้ว่า ถึงแม้พวกเขาจะไม่ผูกพันกับศาสนาใดศาสนาหนึ่ง แต่สิ่งที่พวกเขากำลังตามหาก็อาจไม่แตกต่างจากคนที่มีศาสนาใดศาสนาหนึ่งเป็นหลักพึ่งพิงแต่อย่างใด

การไม่ผูกพันกับศาสนา ไม่ได้แปลว่าการสำรวจและทำความเข้าใจจิตวิญญาณภายในของเราจะหมดความหมายไป นักกิจกรรมเหล่านี้ยังคงมองหาหลักยึดทางจิตวิญญาณเพื่อการดำรงตนในการขับเคลื่อนสังคมของพวกเขา เพียงแต่สิ่งที่พวกเขามองหาอาจจะไม่ใช่ ‘ความเชื่อ’ หรือ ‘ประเพณี’ หรือ ‘พิธีการ’ ต่างๆ ที่มาพร้อมกับศาสนาอย่างที่เรารู้จัก แต่เป็น ‘หลักการ’ หรือ ‘แนวทาง’ ในการปฏิบัติตนที่จะช่วยมอบคำตอบให้กับพวกเขาได้

บรรดาแม่ชีเอง ก็ไม่มีปัญหาหากบรรดานักกิจกรรมเจนวายจะขอแลกเปลี่ยนแนวคิดโดยไม่ปวารณาตนเป็นค ริ ส ต ์ ศาสนิกชนของโบสถ์โรมันคาทอลิก และพวกเธอเองก็ยินดีที่จะไม่ชักชวนพวกเขาเข้าโบสถ์ด้วย

นี่เป็นประสบการณ์ที่ก้าวข้ามโบสถ์หรือความเชื่อไปแล้ว คำถามแรกที่พวกเขาถามเราคือ การปฏิบัติตนทางจิตวิญญาณของพวกคุณคืออะไร ?’ ไม่ใช่ พวกคุณนับถืออะไร ?’” แม่ชีจูดี้ คาร์ล หนึ่งในแม่ชีที่เป็นผู้นำกิจกรรม Nuns and Nones กล่าว

เราจะเห็นได้ว่า คนสองกลุ่มบนเส้นทางที่แตกต่างกันยิ่งกว่าซ้ายกับขวานี้ยังสามารถกลับมาบรรจบกันได้ ทางหนึ่งคือคนรุ่นใหม่ที่ไม่ผูกพันกับศาสนาใดๆ แต่ต้องการแนวทางในการอุทิศตนเพื่อขับเคลื่อนสังคม อีกทางหนึ่งคือแม่ชีของศาสนจักรที่เก่าแก่และทรงอิทธิพลที่สุดในโลก ซึ่งทำงานเพื่อความเชื่อของพวกเขาเสมอมา แต่ทั้งสองเส้นทางก็มาพบเจอกันได้เพราะ ‘จิตวิญญาณ’ ที่ก้าวล้ำขอบเขตของศาสนานั่นเอง

เอกสารอ้างอิง

●      Generation Z and the Future of Faith in America, Survey Center on American Life: https://www.americansurveycenter.org

●      How an alliance between Millennials and religious sisters has changed outlooks, Gen2Gen: https://generationtogeneration.org

●      Nuns & Nones brings together religiously unaffiliated young adults and Catholic sisters, Yonat Shimron: https://faithandleadership.com

●      These Millennials Got New Roommates. They’re Nuns., Nellie Bowles: https://www.nytimes.com

●      The Global Religious Landscape, Pew Research Center: https://www.pewresearch.org

●      The Vowed Life, United States Conference of Catholic Bishops: https://www.usccb.org

Credits

Author

ถึงจะต่างวัยแต่ก็
อยู่ร่วมกันอย่างเข้าใจ