“ยุคสมัยเปลี่ยนไป ลูกค้าเก่าก็ล้มหายตายจากไปทีละคน เดินทางมาถึงวัยนี้ต้องเตรียมตัวให้พร้อมเสมอว่าระหว่างช่างกับลูกค้าที่เหลืออยู่ใครจะไปก่อนกัน (หัวเราะ)”
การเดินทางมักทำให้เราได้เจอเรื่องราวของใครบางคนโดยบังเอิญเสมอ ครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน มนุษย์ต่างวัยไปที่ ถนนนางงาม จ.สงขลา และบังเอิญได้พบกับคุณยายใจดี วิริยะกิจโกศล อายุ 74 ปี เจ้าของห้องเสริมสวยใจดี ห้องเสริมสวยเก่าแก่ของ จ.สงขลา ถ้าดูจากรูปถ่ายแล้วก็คงรู้ว่า คุณยายไม่ได้ใจดีแค่ชื่อ
เกล้า ดัด ซอย ใคร ๆ ก็ต้องนึกถึงห้องเสริมสวยใจดี
คุณยายเล่าให้ฟังว่า สมัยก่อนตอนเปิดร้านในยุคนั้นถือได้ว่าเป็นหนึ่งในช่างที่มีคนรอทำผมด้วยเยอะมากคนหนึ่งของจังหวัด นั่งรอคิวกันเต็มร้าน กว่าจะมาเปิดร้านเสริมสวยเป็นของตัวเองได้ คุณยายต้องดั้นด้นไปเรียนถึงกรุงเทพฯ เพราะรักที่จะเป็นช่างทำผมที่เป็นผู้นำแห่งยุค หลังเรียนจบก็ทำงานในร้านทำผมที่กรุงเทพฯ อีก 6 ปี ก่อนจะกลับมาเปิดร้านที่ จ.สงขลา ภายใต้ชื่อ “ห้องเสริมสวยใจดี” ร้านของคุณยายเป็นร้านที่ทำผมได้ทุกทรง ทรงไหนฮิต อยากทำผมตามดาราคนไหนคุณยายทำได้หมด
“สมัยก่อนนะลูก มีลูกค้าสาว ๆ มารอทำผมวันละ 20 – 30 คนยายก็รับลูกค้ามาแล้ว ทรงนัยนา เพชรา พิศมัย ทำได้ทุกทรง ใครจะไปงานไหน ๆ ก็ต้องแวะมาหายายก่อน สมัยนั้นรับแต่งหน้าด้วยนะ บางคนก็เป็นลูกค้าประจำกันมาต่อเนื่องตั้งแต่ยังสาวจนตอนนี้แก่กันหมดแล้ว ทำกันมาเป็น 30 ปี ก็มีอาชีพนี้เลยเป็นอาชีพแรกและอาชีพเดียวที่ยายทำด้วยความรักมาตลอดชีวิต”
ร้านทำผมยุคเก่าคือแรร์ไอเท็มของผู้สูงอายุ
“พอวันเวลาเปลี่ยนไป โลกก็หมุนเปลี่ยนไป เทรนด์การทำผมก็เปลี่ยนแปลงไป ร้านทำผมยุคเก่า ๆ แบบยายก็ล้มหายตายจากไปเยอะ ทั้งที่ปิดตัวเพราะอายุมากแล้ว และปิดตัวเพราะสู้ร้านใหม่ ๆ ไม่ไหว แต่โลกก็ไม่ได้มีแค่คนวัยรุ่น โลกยังมีคนแก่ที่ยังติดการทำผมแบบเก่า ๆ อยู่ ทำให้ลูกค้ากลุ่มเดียวที่ยังเหลืออยู่ของยายก็คือคนวัยใกล้เคียงกันหรืออาจจะมากกว่า ที่ไม่สามารถหาร้านไหนที่สามารถดัดแบบยุคโบราณ ได้อีกแล้ว เพราะร้านทำผมยุคใหม่ ๆ เขาก็ลอนผมแบบทรงเกาหลีกันหมด แต่คนแก่ที่เขาทำแบบนี้ทำทรงนี้มาทั้งชีวิต การที่ให้เขาเปลี่ยนไปทำร้านใหม่ ๆ เปลี่ยนทรงผม บางทีก็กลายเป็นความไม่มั่นใจนะ ไม่เชื่อหนูลองดูสิคุณย่า คุณยาย ที่บ้านส่วนใหญ่ถ้าทำผมร้านไหนก็ผมอยู่นั้นทั้งชีวิต บางทีเป็นร้านบ้าน ๆ ร้านเชย ๆ เก่า ๆด้วยซ้ำแต่เขาก็ยังทำ
เหลือแค่เดือนละ 1 คน ก็ยังยืนยันที่จะเปิด
“มีคนถามยายเหมือนกันนะว่าทำไมถึงยังเปิดอยู่ทั้ง ๆ ที่ไม่มีลูกค้าเลย ถึงมีก็น้อยมาก สำหรับยายด้วยวัยเราก็ไม่สามารถทำเยอะ ๆ ได้เหมือนสมัยก่อน การได้ทำผมอยู่ก็เป็นเหมือนเราได้อยู่กับอาชีพที่รักให้หายเหงาบ้าง เพราะเราทำมันมาทั้งชีวิต ที่สำคัญเราเข้าใจความรู้สึกของผู้สูงอายุด้วยกันดีว่า การที่ยังมีพื้นที่ที่เหมาะกับวัยเราอยู่บ้างมันอุ่นใจ ทำให้ต่อให้มีลูกค้าคนเดียวยายก็ยังเปิด
ตื่นเช้ามาเปิดร้านคือความสุขเล็ก ๆ ในวัย 74
“ที่หนูเห็นยายใส่ชุดแบบนี้ ไม่ได้ใส่ผ้าถุงเสื้อคอกระเช้าเหมือนคนที่อยู่บ้านทั่วไป ก็เพราะว่าเผื่อมีลูกค้ามาเข้าร้าน เราจะได้สวย คนมองมาก็จะสดชื่นว่าช่างยังสวยอยู่ อย่างวันอังคารยายก็ใส่สีชมพู เป็นชุดตัดเองทั้งหมด 7 วัน 7 สี
การได้เปิดร้าน มีคนแวะเวียนมาทำผมบ้าง สำหรับยายมันไม่ได้กำไรอะไรมากมายหรอก ไม่ได้เป็นกำไรเงินทองที่ทำให้ใช้ชีวิตได้ แต่มันเป็นกำไรความสุขมากกว่า เพราะให้ยายอยู่เฉย ๆ นั่งดูโทรทัศน์ไปวัน ๆ ยายก็ไม่อยากทำ ทุกวันนี้ตกเย็นมายายก็ไปเดินออกกำลังกายวันละ 5 กิโลเมตร เล่นโยคะ ไปวัดสวดมนต์ ทำให้ทั้งกายและใจแข็งแรง ไม่เป็นภาระพี่น้องและหลาน ๆ เพราะเราเป็นคนโสดไม่มีครอบครัว”
ดั้งนั้นการมีร้าน การได้ทำนั่นทำนี่ได้ในวัยนี้คือความสุขเล็ก ๆ ของยาย “ทุกวันนี้ร้านยายมีเหตุผลที่จะปิดร้านมีเหตุผลเดียวคือ ช่างทำผมตาย หรือ ลูกค้าเก่า ๆ ไม่อยู่แล้ว”